ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า โอกาสที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 เริ่มหมดไปทุกขณะ หลังผลสำรวจโดย CNN/SSRS ชี้ว่า อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต ยังคงมีคะแนนนำ ทั้งในภาพรวมทั่วประเทศและในรัฐสวิงสเตท 11 แห่งเช่น ฟลอริดา,เพนซิลเวเนียและรัฐวิสคอนซิน ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 9 วันจะถึงวันเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายนนี้ นายไบเดนนำนายทรัมป์ 9-10 จุดในผลสำรวจทั่วประเทศ และมีคะแนนความนิยมมากกว่านายทรัมป์ร้อยละ 93
หากเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2559 ครั้งนั้น นายทรัมป์ก็มีคะแนนตามหลังนางฮิลลารี คลินตันมาตั้งแต่ต้น แต่พอเหลือเวลาอีก 9 วันจะถึงวันเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน ปรากฏว่า นายเจมส์ โคมีย์ ผอ.หน่วยเอฟบีไอในขณะนั้น เปิดเผยการสอบสวนคดีที่นางคลินตันใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวในการติดต่ออีเมลของทางราชการ ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ทำให้นายทรัมป์พลิกกลับมาทำคะแนนตีตื้นมาสูสีกับนางคลินตันในเวลาอันรวดเร็ว และเมื่อเหลืออีก 9 วันจะถึงวันเลือกตั้ง คะแนนของนางคลินตัน ในการสำรวจทั่วประเทศร่วง 4 จุด อยู่ที่ร้อยละ 45 เทียบกับคะแนนนำนายทรัมป์ 7 จุดในช่วง 21 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง ทำให้นายทรัมป์มีโอกาสโน้มน้าวกลุ่มคนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกผู้สมัครคนใดให้สนับสนุนเขาในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง
แต่ซีเอ็นเอ็น มองว่า โอกาสที่นายทรัมป์ จะทำคะแนนตีตื้น สู้กับนายไบเดน อาจจะไม่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งในปีนี้ โดยสิ่งที่นายไบเดนต้องทำเพื่อชนะการเลือกตั้งคือ รักษาคะแนนนำให้ตลอดไปจนถึงวันเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายนนี้ หากต้องการจะพลิกมาชนะการเลือกตั้ง นายทรัมป์จะต้องชนะในรัฐสวิงสเตททั้ง 11 รัฐ เช่น ฟลอริดา,เพนซิลเวเนียและรัฐวิสคอนซิน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ขณะที่นายไบเดน รักษาคะแนนนำให้คงเส้นคงวาต่อไปและชนะการเลือกตั้งในรัฐสวิงสเตทเพียง 1 รัฐใน 11 รัฐ ก็จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
Cr: CNN, foxnews