นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกันลดเงื่อนไขที่เป็นปมแห่งความขัดแย้ง ต้องช่วยกันชักฟืนออกจากกองไฟ โดยพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า ควรนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 1 ทันทีที่สามารถทำได้และไม่ควรมีเงื่อนไขใดๆเพิ่มเติมจนสังคมเข้าใจว่าเป็นการยื้อเวลา เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ทำประชามติหลังจากรัฐธรรมนูญผ่านรัฐสภาและก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ เท่านั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำประชามติเพิ่มเติมก่อนรับหลักการในวาระที่ 1พร้อมกันนี้ได้เสนอให้วิป 3 ฝ่ายทั้งวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา หาคำตอบร่วมกันว่าจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยจะพิจารณา 6 ร่างที่บรรจุในวาระไปก่อน หรือรอร่างของไอลอว์ที่ได้ชื่อว่าร่างของประชาชน หากเลือก 6 ร่างที่ผ่านการบรรจุวาระไปแล้วอาจถูกครหาว่าละทิ้งร่างแก้ไขฉบับประชาชนหรือไม่ หรือหากรอให้ร่างของไอลอว์เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ก็อาจต้องรอไปอีกอย่างน้อยวันที่ 12 พ.ย.2563 เพราะต้องรอการตรวจสอบรายชื่อ และอาจถูกครหาว่าซื้อเวลา
นายจุรินทร์ เสนอให้แก้ปัญหาสถานการณ์ในปัจจุบัน ด้วยการตั้งกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อปี 2552 โดยให้ยึดหลัก 3 ข้อ คือ
1.องค์ประกอบของคณะกรรมการ ประกอบด้วย 7 ฝ่าย คือ ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล,ผู้แทน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล,ผู้แทน ส.ส.ฝ่ายค้าน,ผู้แทน ส.ว.,ผู้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม,ตัวแทนฝ่ายเห็นต่างกับผู้ชุมนุม,ผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรต่างๆ
2.ให้คณะกรรมการดังกล่าว มีหน้าที่แสวงหาออกที่เป็นรูปธรรม อะไรที่เห็นพ้องกันได้ ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสรุปไปดำเนินการทันที อะไรที่ยังมีความเห็นต่างกัน ก็แขวนไว้และหารือร่วมกันเพื่อหาจุดร่วมที่เห็นตรงกันได้ เน้นรูปแบบจับเข่าคุยกันอย่างสร้างสรรค์ อะไรถอยได้ ก็ถอยคนละก้าวสองก้าว
3.ให้ดำเนินการด้วยความรวดเร็วใช้ความจริงใจต่อกัน
ภาพ : วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา