ประชุมรัฐสภาแก้วิกฤต 'นายกฯ'ชี้การเปลี่ยนแปลงต้องสมดุล ฝ่ายค้านจี้ลาออก

26 ตุลาคม 2563, 11:01น.


การประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ  ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ  ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 


          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  กล่าวเปิดญัตติการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ระบุว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดูแลสถานการณ์การชุมนุมให้ดีที่สุด ทั้งการใช้กฏหมาย ห้ามปราม ตักเตือน  อะลุ่มอล่วย และผ่อนผันกับผู้ชุมนุมมาตลอด แต่การชุมนุมก็ยังขยายตัว แม้การชุมนุมจะมีเสรีภาพได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่รัฐต้องใช้อำนาจเข้าควบคุมการชุมนุมที่ผิดกฎหมายที่เป็นข้อยกเว้นเรื่องการใช้สิทธิเสรีภาพ ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม คือ  การปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม,การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, การแก้ไขรัฐธรรมนูญ  และการปฏิรูปสถาบัน หลายข้อรัฐบาลกำลังดำเนินการ เริ่มมีการปล่อยตัวผู้ชุมนุมหลายราย และยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแล้ว แม้ว่าการชุมนุมส่วนใหญ่จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่บางแห่งก็ยังเกิดความรุนแรงและกระทำผิดกฏหมาย รัฐบาลจึงจำเป็นต้องดูแลสถานการณ์ไม่ให้เกิดการปะทะกัน หรือการก่อจลาจล เพื่อรักษาสิทธิของคนไทยทั้งประเทศ  


          พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า  คนไทยทุกคนไม่ว่าจะมีมุมมองทางการเมืองอย่างไร แต่เชื่อว่าทุกคนรักชาติ รักรากเหง้าความเป็นไทย และต้องการอนาคตที่ดีเพื่อเยาวชน เราต้องหาหนทางนำพาประเทศไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น อย่างมีเหตุผล มีหลักการ ภายใต้ข้อกฏหมาย  รวมทั้งไม่ทำลายอดีตที่มีคุณค่าที่หยั่งรากลึกในหัวใจทุกคน รัฐบาลทราบดีว่า ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่คนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่ไม่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่วุ่นวาย ทุกคนมีความเชื่อของตัวเอง จึงต้องมีความสมดุลระหว่างความต้องการของตัวเองกับคนอื่นอย่างสร้างสรรค์และหวังว่าสมาชิกรัฐสภาจะใช้เวลา 2 วันนี้ ร่วมกันใช้สติปัญญา ความรู้ความสามารถ และเลือดรักชาติ หาทางออกที่สร้างสรรค์เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปอย่างแข็งแรง มั่นคง ยั่งยืน นำพาประเทศไปสู่อนาคตที่ดีและปกป้องอดีตที่มีคุณค่าไว้ด้วย   




          ด้านนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์  สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าฝ่ายค้าน  ระบุว่า เมื่ออ่านญัตติการประชุมแล้ว รู้สึกเสียใจ เพราะไม่มีความสร้างสรรค์  เนื้อหามีแนวโน้มสร้างความแตกแยกร้าวฉานให้ขยายตัวมากขึ้น ซ้ำเติมสถานการณ์ และไม่สามารถเป็นทางออกได้  เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ ล้วนเกิดจากการบริหารจัดการภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ข้อเรียกร้องของนักศึกษาและเยาวชน เกิดจากรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรม  ออกแบบรัฐธรรมนูญเพื่อคงไว้ซึ่งอำนาจของตัวเอง มากกว่าสิทธิเสรีภาพของประชาชน


         ตลอด 6 ปี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ล้มเหลว ไร้ความสามารถ บริหารประเทศด้วยนโยบายที่ผิดพลาด มีการสืบทอดอำนาจไม่เป็นที่ยอมรับและไว้วางใจของประชาชน จนประชาชนต้องออกมาชุมนุมเพื่ออนาคตของตัวเอง จนกระทั่งเกิดการสลายการชุมนุมที่รุนแรง เมื่อวันที่ 16 ต.ค.มีผู้ชุมนุมถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาที่ไม่เป็นธรรมจำนวนมาก ท่ามกลางความวิตกของประชาคมโลก จึงเสนอ 4 ข้อเรียกร้อง คือ 


1.ต้องพิจารณาข้อเสนอของผู้ชุมนุมอย่างจริงจัง เปิดใจรับฟังอย่างมีวิจารณญาณ  


2.แก้รัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตยให้เร็วที่สุด เพื่อพิจารณาต้นเหตุสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ  


3.ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม จากการตัดสินใจที่ผิดพลาดจากการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยุติการปิดกั้นสื่อ และยุติการดำเนินคดีกับประชาชนที่เห็นต่างจากรัฐบาล 


4.เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง เพื่อขจัดปัญหาที่เกิดขึ้น และแสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ตึงเครียด เพราะนายกรัฐมนตรีคืออุปสรรคสำคัญ และเป็นภาระของประเทศ 


 





          ขณะที่นายประเสริฐ  จันทรรวงทอง ส.ส.เพื่อไทย ยื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี  2 ข้อ คือ 


1.ให้นายกรัฐมนตรีลาออก  


2.รัฐสภาต้องลงมติรับหลักการญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมตั้งกรรมาธิการเต็มสภา และเริ่มกระบวนการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)และเมื่อได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ยุบสภา นำไปสู่การเลือกตั้ง



 



cr.ภาพ : วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา

ข่าวทั้งหมด

X