ผลสำรวจ พบชาวอเมริกันจะประท้วง หากผู้สมัครที่สนับสนุนแพ้–ใช้สิทธิ์ล่วงหน้าแล้วกว่า 57 ล้านคน

-ผู้ที่สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน กว่าร้อยละ 40 จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งหากประธานาธิบดีทรัมป์ แพ้การเลือกตั้ง เช่นเดียวกับผู้สนับสนุนร้อยละ 40 ของนาย โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง หากผู้สมัครที่ตนสนับสนุนแพ้การเลือกตั้ง

การสำรวจ จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 13-20 ต.ค. 2563 แสดงให้เห็นว่า ร้อยละ 43 ของผู้สนับสนุนนายไบเดนจะไม่ยอมรับหากประธานาธิบดีทรัมป์ชนะ

-ร้อยละ 41 ของชาวอเมริกันที่ต้องการเลือกประธานาธิบดีทรัมป์ อีกสมัยจะไม่ยอมรับชัยชนะของนายไบเดน และมีส่วนหนึ่งที่ประกาศจะแสดงความไม่พอใจ

-ร้อยละ 22 ของผู้สนับสนุนนายไบเดน และร้อยละ 16 ของผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศว่า จะประท้วงและอาจก่อความรุนแรงหากผู้สมัครที่ตนสนับสนุนแพ้เลือกตั้ง

          เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งของสหรัฐฯกำลังเผชิญความท้าทายหลายอย่าง ที่ทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นผลการเลือกตั้ง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติระดับสูงเตือนว่า รัสเซียและอิหร่านได้เจาะระบบลงคะแนนของสหรัฐฯ และกำลังหาวิธีบ่อนทำลายการเลือกตั้ง

          คณะกรรมาธิการสนับสนุนการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ( อีเอซี ) ร่วมกับ "ดิ อิเล็กชัน โปรเจกต์" ของมหาวิทยาลัยฟลอริดา รายงานว่า นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. 2563 ชาวอเมริกันมากกว่า 59 ล้านคน ใช้สิทธิ์ล่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ทั้งด้วยวิธีการส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์และการใช้หย่อนบัตรด้วยตัวเองที่คูหาของแต่ละรัฐ

          ทั้งนี้ สถิติดังกล่าวทำลายจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ล่วงหน้าของการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อปี 2559 ซึ่งสถิติการลงคะแนนล่วงหน้าอยู่ที่มากกว่า 57 ล้านคน หลายฝ่ายมองว่า การหลั่งไหลออกมาใช้สิทธิ์ล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์ของชาวอเมริกัน มีปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ด้วย

BBC