*มท.1พร้อมจัดเลือกตั้ง แทนกกต.*

กรณีที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีมติให้ลดอำนาจและบทบาทของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และให้หน่วยงานของรัฐ เช่น กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานในการจัดการเลือกตั้งแทน พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เชื่อว่า สามารถทำได้แต่จะต้องทำโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม เหมือนการเล่นฟุตบอลที่กรรมการจะต้องเป็นกลางมิเช่นนั้นเหตุการณ์เดิมๆจะเกิดขึ้นอีก ดังนั้นถ้ากำหนดเป็นนโยบาย เป็นกฎหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการแล้ว กระทรวงมหาดไทยก็ต้องทำให้ดีที่สุด ให้การเลือกตั้ง มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่มีพรรค ไม่มีพวก ทำตามกฎหมาย ทำให้ไม่เกิดความระแวงว่า ไม่ยุติธรรม หรือ เข้าข้าง บ้านเมืองก็จะสงบ ซึ่งเมื่อผลออกมาอย่างนี้ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ยังรับได้

ก่อนหน้านี้   คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้บทสรุปในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)  จะมีองค์ประกอบ 5คน แบ่งเป็นประธาน กกต.1คนและกรรมการ 4คน มีวาระ 6ปี ดำรงตำแหน่งได้วาระเดียว คุณสมบัติต้องมีความซื่อสัตย์ มีประสบการณ์ในการเลือกตั้งและไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองมาไม่น้อยกว่า 5ปี สำหรับคณะกรรมการสรรหา กกต.ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ ตุลาการและภาคการศึกษา ไม่น้อยกว่า 15คน ก่อนจะส่งความเห็นให้วุฒิสภา ให้ความเห็นชอบ

ส่วนอำนาจหน้าที่ของ กกต.มีหน้าที่หลักในการกำกับดูแลการเลือกตั้ง ไม่ให้มีการทุจริต โดยมีอำนาจสืบสวนสอบสวนให้จัดการเลือกตั้งใหม่ได้หากพบว่า มีการทุจริต (ใบเหลือง) แต่ทั้งนี้การจัดการเลือกตั้งจะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐที่มีกำลังบุคคล เช่น กระทรวงมหาดไทย(มท.)และกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ซึ่งการให้ใบเหลืองของ กกต. ก็จะเป็นการให้ทั้ง หน่วยงานที่จัดการเลือกตั้งและผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังคงไว้ซึ่ง กกต.จังหวัด ทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนการทุจริตส่วนการดำเนินคดีกับผู้ทุจริตการเลือกตั้ง(ใบแดง) จะให้ศาลเป็นผู้พิจารณา อาจใช้ชื่อว่า ศาลเลือกตั้ง ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ จะเปิดช่องให้ผู้ถูกกล่าวหาสามารถอุทธรณ์คดีได้ ทั้งนี้ จะกำหนดให้ต้องมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรภายใน 30วัน หลังมีการเลือกตั้งทั่วไป โดยการเปิดประชุมสภาฯได้ กกต.จะต้องประกาศผลให้ได้ร้อยละ85 ทั้งนี้ กกต.ให้อำนาจ กกต.ในการประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ได้