ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2563

26 ตุลาคม 2563, 09:27น.



ป้องกันเหตุระเบิดซ้ำ! ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ประสาน ปตท.ขอแบบแปลนวางแนวท่อก๊าซ



           นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัด​ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ท่อก๊าซระเบิดที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 66 คน เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ จากการลงพื้นที่ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บรายหนึ่งที่ทำงานอยู่ในโรงงานภายนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ อ.บางปะกง โรงงานยืนยันว่าจะจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างให้ระหว่างที่ยังคงรักษาตัวอยู่ด้วย ขณะเดียวกัน จังหวัดฉะเชิงเทรา เตรียมที่จะขอผังหรือแบบแปลนในการวางแนวท่อก๊าซจากบริษัท ปตท.ทั้งหมด ซึ่งเดินท่อผ่านเข้าในพื้นที่เพื่อช่วยระวังป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้จนอาจทำให้เกิดการระเบิดซ้ำขึ้นอีก โดยขณะนี้ได้แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยกันเฝ้าระมัดระวังในทุกพื้นที่แล้ว และ ปตท.ก็ควรที่จะนำข้อมูลการวางแนวท่อก๊าซมอบให้ทุกจังหวัดที่มีการวางแนวท่อส่งก๊าซผ่าน ไม่ใช่แค่เฉพาะ จ.ฉะเชิงเทรา เพียงจังหวัดเดียวเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ



สภาอุตสาหกรรม เร่งรัดเอสเอ็มอี ติดต่อแบงก์ เคลียร์หนี้



          นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึง ความคืบหน้าการชำระหนี้ของเอสเอ็มอีหลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ว่า หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีนโยบายให้ธนาคารพาณิชย์ยังคงช่วยลูกหนี้แต่ให้ดูแลเป็นรายกรณีสำหรับลูกหนี้ที่ยังไม่มีความสามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ ยังคงต้องพักชำระหนี้ต่อไป ส.อ.ท.อยู่ระหว่างแจ้งสมาชิกให้รับทราบและหากใครมีปัญหาให้แจ้งกลับมา คาดว่า จะมีความชัดเจนภายใน 3 เดือนนับจากนี้ ทั้งนี้ หากธนาคารเจ้าหนี้สามารถติดต่อและเจรจากับลูกหนี้ครบทุกรายก็เป็นเรื่องดี เพราะมาตรการจะเน้นช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจริง ส่วนคนที่ไม่เดือดร้อนก็จ่ายหนี้ตามปกติ



          นายสุพันธุ์  กล่าวว่า สำหรับมาตรการคนละครึ่งที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.2563 จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหนนั้น ต้องรอดูการใช้จ่ายหลังจากนี้ เพราะตอนนี้ยังลงทะเบียนไม่ครบ 10 ล้านสิทธิ์ ต้องดูว่าผู้ลงทะเบียนใช้จ่ายแล้วได้รับความสะดวกหรือไม่ และควรดูว่ามีผู้ใช้ประจำกี่เปอร์เซ็นต์ หากอยู่ระดับร้อยละ 90-100 เป็นเรื่องดี แต่ใช้ระดับร้อยละ 50-60 อาจต้องกลับมาพิจารณาว่าเหตุใดลงทะเบียนแล้วไม่ใช้สิทธิ์ อุปสรรคคืออะไร



ก.พาณิชย์ จับตาผลกระทบโควิด-19 เลือกตั้งสหรัฐฯ สงครามการค้าจีน



          น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า การส่งออกไทยในเดือนก.ย.2563 มีมูลค่า 19,621.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 3.86 เป็นการติดลบน้อยลง ซึ่งถือเป็นการฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เป็นสัญญาณที่ดีจากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น ผลจากการส่งออกสินค้าหลายตัวเพิ่มขึ้น ไม่ใช่จากการส่งออกทองคำเป็นตัวดันส่งออก ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 17,391.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 9.08 ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 2,230.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ    



          แนวโน้มการส่งออกของไทยถือว่าฟื้นตัวอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆถือว่าติดลบน้อยลง โดยการส่งออกไตรมาสที่ 4 คาดว่า จะส่งออกได้มูลค่า 56,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ยอดรวมทั้งปี 2563 จะส่งออกได้มูลค่า 228,904 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบประมาณร้อยละ 7 ไม่ติดลบถึง 2 หลักอย่างที่เคยมีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้



          ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของสินค้าส่งออกหลายกลุ่ม โดยเฉพาะสินค้า 3 กลุ่มที่เติบโตดี คือ อาหาร เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง เครื่องดื่ม สิ่งปรุงรสอาหาร และอาหารสัตว์เลี้ยง สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้า โซลาร์เซลล์ และสินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อ  เช่น ถุงมือยาง



          ส่วนสินค้าหลายรายการส่งออกได้ลดลง เช่น น้ำตาลทราย ข้าว ยางพารา ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และทองคำ



ติดตามปัจจัยเสี่ยงที่กระทบการส่งออก



-การระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในเมียนมา จะกระทบต่อการค้าชายแดนระยะสั้น ส่วนการระบาดระลอก 2 อาจจะยังไม่มีผลกระทบในทันทีต่อการส่งออกเพราะส่วนใหญ่ส่งมอบสินค้าไปแล้ว แต่จะไปมีผลในช่วงไตรมาสแรกปี 2564



-ปัจจัยจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งต้องติดตามว่าสหรัฐฯจะใช้วิธีใดกับจีน เพราะไม่ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ หรือนายโจ ไบเดน จะได้รับเลือก แต่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน จะยังคงมีอยู่



-ผลการผลิตวัคซีนโควิด-19 ของทั้งฝั่งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป(อียู) และเอเชีย หากประเทศใดสามารถพัฒนาได้สำเร็จ ประเทศนั้นจะฟื้นตัวแบบหัวกระสุนชินคันเซน เศรษฐกิจจะเทไปทางนั้น



          สำหรับปัญหาการเมืองของไทยไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก แต่อาจมีผลกระทบต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุน นักลงทุนจะใช้เป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณา ถ้านักลงทุนไม่มา การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยยังต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศก็จะชะงักและมีผลกระทบต่อการส่งออกในระยะยาว



ใช้เวทีสภาฯ ลดความขัดแย้ง รัฐบาล คาดกลางเดือน พ.ย.พิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ



          การเปิดประชุมรัฐสภาวิสามัญในวันที่ 26-27 ต.ค.2563 ช่วงเวลา 09.30-22.00 น. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความเห็นต่างทางการเมืองที่เกิดขึ้น รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะให้เวทีรัฐสภาเป็นกลไกในการคลี่คลายสถานการณ์ โดยพร้อมรับฟังข้อมูลและความเห็นจาก ผู้แทนทุกฝ่าย เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับของคนส่วนมาก ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาทางการเมือง รัฐบาลได้ดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านมาตรการระยะสั้นและระยะยาว เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และให้ประเทศเดินหน้าต่อได้อย่างเต็มศักยภาพ น.ส.รัชดา กล่าวถึง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ คาดว่า จะมีการพิจารณากลางเดือนพ.ย.2563 




 

ข่าวทั้งหมด

X