ยังมีผู้บาดเจ็บจากเหตุท่อก๊าซระเบิดที่สมุทรปราการรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล อีก 24 คน

          ความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุท่อส่งก๊าซระเบิดที่จังหวัดสมุทรปราการ ขณะนี้เหลือผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 24 คน ขณะที่ไม่พบปัญหาเรื่องคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม

          นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากเหตุท่อส่งก๊าซระเบิดในนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย (สุวรรณภูมิ) ที่จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและได้รับบาดเจ็บ 62 คน ขณะนี้กลับบ้านได้แล้ว 38 คนเหลือที่ยังรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 24 คน โดยแบ่งอาการตามระดับความรุนแรง สีแดงจำนวน 6 คน (ใส่ท่อช่วยหายใจ 4 คน) สีเหลือง 9 คน และสีเขียว 9 คน ซึ่งทั้งหมดเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้

1.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 เป็นเพศชาย 1 คน เพศหญิง 1 คน อาการอยู่ในระดับสีเขียว

2.โรงพยาบาลบางบ่อ เป็นเพศชาย 1 คน เพศหญิง 2 คน อาการอยู่ในระดับสีเหลือง

3.โรงพยาบาลรามาธิบดี วิทยาเขตพญาไท เป็นเพศหญิง 1 คน อาการอยู่ในระดับสีแดง

4.โรงพยาบาลพุทธโสธร เป็นเพศชาย 3 คน อาการอยู่ในระดับสีแดง 1 คน, สีเหลือง 2 คน

5.โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เป็นเพศชาย 1 คน อาการอยู่ในระดับสีแดง

6.โรงพยาบาลไทยนครินทร์ เป็นเพศชาย 2 คน เพศหญิง 1 คน อาการอยู่ในระดับสีแดง 1 คน, สีเหลือง 2 คน

7.โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ เป็นเพศชาย 1 คน อาการอยู่ในระดับสีแดง

8.โรงพยาบาลลาดกระบัง เป็นเพศชาย 3 คน เพศหญิง 3 คน อาการอยู่ในระดับสีแดง 1 คน, สีเหลือง 1 คน, สีเขียว 4 คน

9.โรงพยาบาลสิรินธร เป็นเพศชาย 1 คน อาการอยู่ในระดับสีเหลือง

10.โรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์ เป็นเพศชาย 1 คน, เพศหญิง 2 คน อาการอยู่ในระดับสีเขียว

          ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอย่างเต็มที่ รวมทั้งส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนโรค คัดกรองสุขภาพประชาชน และตรวจคุณภาพอากาศ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าพื้นที่นั้นปลอดภัย ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสุขภาพประชาชน

          เจ้าหน้าที่จากกองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และแพทย์อาชีวเวชศาสตร์จากโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ลงพื้นที่สอบสวนเพื่อเฝ้าระวังและคัดกรองสุขภาพประชาชน ในพื้นที่จุดเกิดเหตุตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ พบว่าส่วนใหญ่มีอาการแสบตา แสบคอ แสบจมูก เท้าบวม และมีอาการแสดงเล็กน้อย อาทิ เหนื่อยง่าย ปวดศรีษะ คัดจมูก มีผื่นแดง คันตามร่างกาย นอกจากนี้ยังได้ลงพื้นที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศจำนวน 5 จุด ได้แก่

1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านตะวันใหม่

2.โรงเรียนเปร็งวิสุทยาธิบดี

3.อบต.เปร็ง

4.บ้านเลขที่ 114/1 หมู่ 4 ตำบลเปร็ง

5. วัดเปร็ง

          ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร โดยเครื่องตรวจวิเคราะห์คุณภาพอากาศภายในอาคารแบบอ่านค่าโดยตรง (IAQ) ตรวจวัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์ ไฮโดรเจนซัลไฟล์ ก๊าซโอโซน ฝุ่น PM10 และ ฝุ่น PM2.5 พบว่าไม่เกินค่ามาตรฐานในทุกจุดตรวจวัด (อ้างอิงตามมาตรฐานคุณภาพภายในอาคารประเทศสิงคโปร์ 2009 ) และผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายนอกอาคาร โดยเครื่องมือตรวจวัดปริมาณแก๊สในอากาศ ตรวจวัดเบนซีน, เอทิลีน, โทลูอีน, ไซลีน, สไตรีน พบว่าทั้ง 5 จุดปริมาณสารเคมีไม่เกินค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจ ระดับ 1 ตามประกาศกรมควบคุมมลพิษเรื่องค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน

....