แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) กลับมาทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 ของวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง หลังจากที่ถูกระงับโครงการไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่โควิด-19 คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 223,000 รายและวิกฤตสุขภาพกลายเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้
แอสตราเซเนกาประกาศว่าการพัฒนาวัคซีนที่เป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดของสหราชอาณาจักร ที่ถูกระงับไปเมื่อ 6 กันยายน กลับมาดำเนินโครงการต่อแล้ว หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ของสหรัฐฯ หรือเอฟดีเออนุญาต
การทดสอบวัคซีนของแอสตราเซเนกาถูกระงับโครงการทั่วโลก เนื่องจากอาสาสมัครมีอาการป่วย และเสียชีวิต แต่ในอีกไม่กี่วันถัดมาสหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้ บราซิลและญี่ปุ่นก็อนุญาตให้เดินหน้าโครงการต่อ เนื่องจากการเสียชีวิตและอาการป่วยของอาสาสมัครไม่มีความเกี่ยวข้องกับวัคซีน
ด้านจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เปิดเผยว่ากำลังเตรียมที่จะรับสมัครอาสาสม้ครอีกครั้ง หลังจากที่การทดสอบต้องถูกระงับเนื่องจากมีอาสาสมัครล้มป่วย แต่ผลการตรวจสอบพบว่าอาการป่วยของอาสาสมัครไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีนที่กำลังมีการพัฒนา
นอกจากนี้ในสหรัฐฯ ยังมีบริษัทผู้พัฒนาวัคซีนอีก 2 แห่งคือไฟเซอร์ (Pfizer) และโมเดอนา (Moderna) ที่คาดว่าจะได้รับอนุญาตจากเอฟดีเอให้ดำเนินโครงการได้ในเดือนหน้า
กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ คาดว่าสหรัฐฯ จะมีวัคซีนมากเพียงพอที่จะฉีดวัคซีนให้กับชาวอเมริกันกลุ่มเปราะบางที่สุดก่อนสิ้นปีนี้ จากนั้นภายในสิ้นเดือนมกราคมจะสามารถฉีดวัคซีนผู้สูงอายุทุกคนได้ และภายในเดือนมีนาคมหรือเมษายนจะสามารถฉีดวัคซีนให้กับชาวอเมริกันทุกคนที่ต้องการการฉีดวัคซีน
....