เชิญชวนสวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา น้อมรำลึกวันปิยมหาราช
วันสำคัญ 23 ต.ค.วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สมเด็จพระปิยมหาราช หน่วยงานในประเทศและในต่างประเทศจัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 โดยมหาเถรสมาคม (มส.) มีมติให้วัดทุกวัดทั่วประเทศและวัดไทยในต่างประเทศ จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาพร้อมกัน เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ส่วนกลางกำหนดจัดพิธีที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ส่วนภูมิภาค กำหนดจัดพิธีที่หน้าศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด ขณะที่ในต่างประเทศให้กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งสถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยจัดพิธีตามความเหมาะสม
บทสวดพระพุทธมนต์ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ประกอบด้วย 11 บทสวด คือ นะมะการคาถา บทไตรสรณคมน์ บทปัพพะโตปะมะคาถา บทอะริยะธะนะคาถา บทขัดธรรมนิยมะสูตร บทธัมมะนิยาสุตตัง บทติลักขะณาทิคาถา บทปะฏิจจะสะมุปปาทะปาฐะ บทพุทธะอุทานะคาถา บทภัทเทกะรัตตะคาถา และ บทภะวะตุ สัพ
11 บทสวด มีความหมายเป็นการสอนใจประชาชนให้มีสติ ให้ตั้งมั่นในคุณงามความดี พิจารณาถึงความไม่เที่ยงของทุกสิ่ง ไม่ประมาทกับการใช้ชีวิตก็จะสามารถดำรงชีวิตอยู่บนความถูกต้องตามทำนองครองธรรม
ส่วนช่วงบ่าย 15.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ วางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต
คนเดินทาง หยุดยาวช่วงวันปิยมหาราช คาดประมาณ 40,000-50,000 คน
นายมาโนช สายชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจเดินรถ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาว 23-25 ต.ค.2563 บขส.จัดรถโดยสาร ทั้งรถบขส.รถร่วมและรถตู้ รวมกว่า 6,000 เที่ยว รองรับผู้โดยสารที่ใช้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพที่จตุจักร ถนนบรมราชชนนี เอกมัย ได้สูงสุดวันละ 100,000 คน
เมื่อวานนี้ 22 ต.ค. 2563 เป็นวันแรกก่อนวันหยุดยาว คาดว่า มีผู้โดยสารเดินทางประมาณ 40,000 -50,000 คน เพิ่มขึ้นจากวันปกติที่มีผู้โดยสารใช้บริการช่วงวันหยุดศุกร์-อาทิตย์เล็กน้อยประมาณวันละ 30,000 – 40,000 คน ทั้งนี้พบว่า ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเดินทางไปยังจังหวัดภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ และเชียงราย เพื่อไปท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาว
นายมาโนช กำชับพนักงาน บขส. และผู้ประกอบการรถร่วม ตรวจสภาพความพร้อมของรถโดยสารเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ รวมทั้งให้ใช้ความระมัดระวังในการขับรถให้มากขึ้น เนื่องจากช่วงนี้บางพื้นที่ยังมีฝนตก ย้ำการบังคับใช้มาตรการด้านสาธารณสุขป้องกันโรคโควิด-19
เร่งช่วยเหลือชาวบ้าน สอบหาสาเหตุท่อก๊าซระเบิดที่ บางบ่อ สมุทรปราการ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐบาล กระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท.จำกัด มหาชน กระทรวงแรงงาน ฯลฯ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก จากเหตุท่อก๊าซระเบิดในพื้นที่ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ บ้านเรือนประชาชนและสถานีตำรวจ พังเสียหายรวมถึงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ตามบ้านอีกหลายคัน
-นายโชคชัย ธนเมธี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ปตท. ประสานจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ในพื้นที่วัดเปร็งราษฎร์บำรุง นายชวลิต ทรงกิตติ นายอำเภอบางบ่อ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ประสานงาน ดูแลเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และที่พักชั่วคราว ปตท.พร้อมดูแลรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้ผู้บาดเจ็บ รวมถึงการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต
-นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่า มีผู้บาดเจ็บหลายคนที่เป็นผู้ประกันตนแยกพักรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลให้การช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามขั้นตอน
-นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน สั่งการให้ กรมธุรกิจพลังงาน ร่วมกับ ปตท.และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) สอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้สายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ขนาด 230 กิโลโวลต์ คลองใหม่ – ลำลูกกา วงจร 1 และ 2 ขัดข้อง แต่ยังสามารถส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชน โดยนำสายส่งชั่วคราว 230 กิโลวัตต์ พระนครใต้-เทพารักษ์ เข้าใช้งาน รวมทั้งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมบางปะกงหน่วยที่ 5 และเดินเครื่องโรงไฟฟ้าวังน้อย หน่วยที่ 3 ซึ่ง กฟผ.ยืนยันไม่กระทบกับผู้ใช้ไฟ
-นายถวัลย์ ธนกิจเจริญพัฒน์ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กระทรวงพลังงาน คาดว่า ท่อก๊าซดังกล่าวเป็นท่อเส้นที่ 2 ขนาด 36 นิ้ว ใช้งานมาระยะหนึ่งแล้ว ส่งก๊าซไปใช้ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เมื่อเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปตท.ลงพื้นที่ตัดแยกระบบบริเวณช่วงท่อดังกล่าว พร้อมประสานงานทีมดับเพลิงในพื้นที่เพื่อร่วมระงับเหตุ สาเหตุกำลังดูให้ชัดเจน แต่ปกติแนวท่อก๊าซจะมีป้ายกำกับเตือนอันตรายระมัดระวังเห็นชัดเจน
-นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) มอบหมายให้หน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อม สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 13 จังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่ตรวจเรื่องสารมลพิษตกค้างในพื้นที่ โดยเฉพาะมลพิษตกค้างจากเหตุก๊าซระเบิด ทั้งควันไฟ และสารมลพิษอื่นๆ เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเป็นก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งหากเกิดระเบิดแล้วจะเผาไหม้สมบูรณ์ แต่จะมีเขม่าควันไฟที่ลอยไปไกลตามลม
-พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 (พล.ร.11) สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลทหารราบที่ 11 (ศบภ.พล.ร.11) จัดส่วนล่วงหน้าประเมินสถานการณ์ จัดเจ้าหน้าที่ 45 นาย พร้อมรถบรรทุกทางทหารจำนวน 4 คัน เข้าช่วยเหลือประชาชนและขนย้ายสิ่งของ รวมถึงเตรียมการจัดจิตอาสาช่วยเหลือฟื้นฟูความเสียหาย
ชาวสเปนร่วมชุมนุมเรียกร้องให้ผู้นำลาออก จากเหตุทุจริต
...
ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยสมองเสื่อม 491 รายเสียชีวิตหลังการสูญหายในปี 2567
...
การระบาดของเชื้อซัลโมเนลลาเชื่อมโยงกับไข่ ทำให้ผู้คนล้มป่วยหลายสิบคนใน 7 รัฐ
...
ข่าวทั้งหมด
