ส่งออก 9เดือนแรกของไทยติดลบน้อยลง คาดทั้งปีติดลบ 6-7%
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนกันยายน 2563 ยังติดลบร้อยละ 3.86 คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 19,621 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำเข้าติดลบร้อยละ 9.08 คิดเป็นมูลค่า 17,391 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดุลการค้าเกินดุล 2,230 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯส่งผล 9 เดือนแรก ติดลบร้อยละ 7.33 คิดเป็นมูลค่า 172,996 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำเข้าติดลบร้อยละ 14.64 คิดเป็นมูลค่า 152,2372 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลอยู่ที่ 20,623 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับภาพรวมการส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้น ดูจากตัวเลขการส่งออกที่ติดลบน้อยลง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายใต้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ในหลายประเทศส่งผลให้เริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดสถานที่และควบคุมการเดินทาง ทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลกับประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยมีศักยภาพในการนำเข้าสินค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าประเทศในแถบเอเชีย เศรษฐกิจเริ่มมีการฟื้นตัวดีขึ้นมากกว่าฝั่งสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวดีขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะในส่วนของสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป รวมถึงสินค้าที่ตอบสนอง work from home สนค.มองว่า การส่งออกตลอดปีนี้จะติดลบร้อยละ 6-7 ทั้งนี้ เฉพาะหน้าการส่งออกเวลานี้มองว่าประเทศไทยมีสินค้าที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของตลาดเฉพาะกลุ่มได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทางการแพทย์ โดยเฉพาะถุงมือยาง สินค้าตอบสนองผู้บริโภคที่ทำงานในบ้านระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัย เป็นต้น
ญี่ปุ่น กำลังพิจารณาให้นักธุรกิจที่เข้าปท.ไม่เกิน 3 วัน ไม่ต้องกักตัว
รัฐบาลญี่ปุ่น กำลังพิจารณาเรื่องให้นักธุรกิจที่เข้าประเทศไม่เกิน 72 ชั่วโมงหรือ 3 วัน ได้รับการยกเว้นจากมาตรการกักตัว หากปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่นอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลจะคัดเลือกประเทศที่มีคุณสมบัติได้รับการยกเว้นดังกล่าว ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศนั้นๆปัจจุบันญี่ปุ่นมีข้อตกลงลักษณะเดียวกันนี้กับผู้เดินทางเพื่อการทำธุรกิจจากสิงคโปร์ เกาหลีใต้ และเวียดนาม โดยมีเงื่อนไขที่ต้องรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาและจำกัดสถานที่ที่สามารถไปได้และจะนำเงื่อนไขเหล่านี้มาใช้กับระบบที่จะขยายให้กว้างขวางขึ้น
หลายรัฐของสหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการคุมโควิด-19 อยู่แต่ในบ้าน เรียนออนไลน์
รัฐไอโอวา มินนิโซตา มอนแทนา แคนซัส ฮาวาย และวิสคอนซินของสหรัฐฯ มีตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุด ส่วนรัฐวิสคอนซิน อิลลินอยส์ เคนทักกี โคโลราโด และโอไฮโอ มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงสุด นายโทนี เอเวอร์ส ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน ขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และให้ความร่วมมือช่วยกันควบคุมโรคโควิด-19 และป้องกันปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล
รัฐอิลลินอยส์ มีผู้เสียชีวิต 66 ราย ถือเป็นสถิติรายวันสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิ.ย. ส่วนรัฐแคนซัส มีผู้เสียชีวิตพุ่งสูงถึง 80 ราย ยอดผู้ป่วยติดเชื้อทั่วประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีตัวเลขผู้ป่วยเฉลี่ย 60,000 คนต่อวันในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี 35,000 คนต่อวันเมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว ขณะที่ ยอดผู้ป่วยในเขตมิดเวสต์ ทำสถิติสูงสุดกว่า 27,000 คน และมีตัวเลขผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 10,830 คน ทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 5 และทำให้วิตกกังวลว่า ความสามารถของโรงพยาบาลอาจไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วย
ทางการท้องถิ่นของพื้นที่อื่นๆ ในสหรัฐฯเริ่มประกาศใช้มาตรการใหม่เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เช่น เมืองบอสตันในรัฐแมสซาชูเซตส์ นครนิวยอร์กในรัฐนิวยอร์ก และเมืองลอสแอนเจลิส ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ออกคำสั่งให้โรงเรียนทำการสอนจากทางไกลผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจาก มีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น
'ไบเดน' เตรียมพร้อมดีเบตครั้งสุดท้ายกับ 'ทรัมป์' ทีมหาเสียงโหมโฆษณาโค้งสุดท้าย
ทีมหาเสียงเลือกตั้งของนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต โหมโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งก่อนที่เขาจะโต้วาทีหรือดีเบตนัดสุดท้ายกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันในค่ำวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ ตรงกับเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาในไทย นายไบเดน วัย 77 ปี พักการหาเสียงเพื่อเตรียมตัวดีเบต ขณะที่ทีมหาเสียงของเขายิงโฆษณาในการแข่งขันเบสบอลเมเจอร์ลีกฤดูกาลปี 2563 หรือเวิลด์ซีรีย์ 2020 เกมแรกและเกมที่สองเมื่อคืนวันอังคารและวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ จากที่จัดสรรงบโฆษณาหาเสียงในเวิลด์ซีรีย์ทั้งหมด 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 125 ล้านบาท และเตรียมยิงโฆษณาในการถ่ายทอดสดการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอลในคืนนี้ตามเวลาสหรัฐฯ สำหรับผู้ที่ไม่ชมการถ่ายทอดสดดีเบตที่มีคริสเทน เวลเกอร์ ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี (NBC) เป็นผู้ดำเนินรายการ
ที่ปรึกษานายไบเดน เปิดเผยว่า การซื้อโฆษณาระดับประเทศช่วยให้นายไบเดนเข้าถึงทุกสวิงสเตทหรือแบตเทิลกราวด์สเตท ซึ่งเป็นรัฐที่ไม่เป็นฐานเสียงของพรรคใด เป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าในการแข่งขัน ตามที่ผลสำรวจ ชี้ว่า นายไบเดนมีคะแนนนิยมนำหรือสูสีนายทรัมป์ใน 10 รัฐที่นายทรัมป์เคยชนะในการเลือกตั้งปี 2559 และช่วยปกป้องรัฐฐานเสียงพรรคเดโมแครตที่มีอยู่จำนวนหนึ่ง ซีเอ็มเอจี (CMAG) บริษัทติดตามการโฆษณา เปิดเผยว่า ทีมหาเสียงของนายไบเดนและนายทรัมป์ สำรองเงินไว้โฆษณาช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง 3 พ.ย.ตามเวลาสหรัฐฯ 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4,852 ล้านบาท และ 88 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2,755 ล้านบาท ตามลำดับ