23 ต.ค.เริ่มใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง! เหลือสิทธิ์ที่ยังไม่ลงทะเบียนอีกกว่า 3 ล้านคน
วันพรุ่งนี้ 23 ต.ค.2563 คนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งและผ่านขั้นตอนการตรวจสอบแล้วใช้จ่ายได้เลยวันแรก 23 ต.ค.จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2563 นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษก
เมื่อประชาชนได้รับข้อความยืนยันสิทธิ์ทางโทรศัพท์มือถือแล้วขอให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง และยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย จากนั้นเติมเงินจำนวนเท่าใดก็ได้ตามต้องการเข้า ในแอปฯ เป๋าตัง ก็จะสามารถใช้สิทธิ์ซื้อสินค้ากับร้านค้าที่มีแอปฯ ถุงเงิน ที่เข้าร่วมโครงการได้ทันที ระหว่างวันที่ 23 ต.ค.-31 ธ.ค.2563 ในช่วงเวลา 06.00-23.00 น. ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์
สำหรับร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบเข้าร่วมโครงการและมีแอปฯ ถุงเงินแล้วขอให้อัพเดทแอปฯให้เป็นปัจจุบัน จากนั้นกดปุ่มยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขโครงการก่อนเพื่อให้พร้อมรับการสแกนจ่ายเงินด้วยแอปฯ เป๋าตังของประชาชน โดยขณะนี้มีร้านค้าเข้าร่วมแล้วกว่า 300,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ประชาชนสังเกตร้านค้าที่เข้าร่วมได้จากสัญลักษณ์โครงการ
CR:กระทรวงการคลัง
ศบค.เพิ่มจำนวนที่นั่งคนชมกีฬา-อนุมัติเพิ่ม 3 กลุ่มเข้าประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การสร้างความมั่นใจเรื่องการควบคุมสถานการณ์โควิด -19 ว่า ยังไม่ตัดสินใจเรื่องการลดการกักตัวผู้ที่เดินทางเข้าไทยจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน เพราะต้องหามาตรการรองรับก่อน ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินมาตรการทางสุขภาพอย่างไรได้บ้าง
-จัดทำอุปกรณ์สายรัดข้อมือ หรือริสแบรนด์ สำหรับติดตามตัวผู้เดินทาง เพื่อให้เป็นมาตรฐานทันสมัย
-การตรวจเชื้อ
ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.อนุญาตเพิ่มจำนวนที่นั่งสำหรับผู้ที่เข้าชมกีฬา
-สนามกีฬากลางแจ้ง เชียร์เสียงดัง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 50
-สนามกีฬาเชียร์เสียงไม่ดัง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 70
-สนามกีฬาในร่ม เชียร์เสียงดัง เช่น มวย เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 30
-สนามกีฬาในร่ม เชียร์เสียงไม่ดัง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 50
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน กล่าวว่า ศบค.ใช้การประกาศจาก
โฆษก
-กลุ่ม 1 เมดิคอลสปา Wellness รีสอร์ท และสปารีสอร์ท
-กลุ่ม 2 ผู้สูงอายุที่มาพักผ่อนและดูแลสุขภาพระยะยาว
-กลุ่ม 3 กลุ่มพักผ่อนท่องเที่ยวและเล่นกีฬา เช่น มาพักโรงแรมที่มีสนามกอล์ฟ ซึ่งที่ประชุม
CR:รัฐบาลไทย
เตรียมเสนอครม.ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้มาตรา 9 ควบคุมโควิด-19
มติที่ประชุม
ขนส่งฯ ทดสอบความแข็งแรงโครงสร้างรถโดยสาร พบรถยุบถึงพื้นที่เซฟโซนเบาะผู้โดยสาร
นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมสังเกตการทดสอบความแข็งแรงโครงสร้างรถโดยสารโดยการพลิกคว่ำ ตามมาตรฐานสากลของข้อกำหนดสหประชาชาติ (United Nation Regulation) UN R66 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามโครงการศึกษาออกแบบโครงสร้างตัวถังรถโดยสารให้มีความแข็งแรงเป็นไปตามหลักมาตรฐานความปลอดภัย โดยศูนย์เทคโนโลยี และวัสดุศาสตร์แห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อจัดทำโครงสร้างตัวถังรถโดยสารมาตรฐานต้นแบบให้ผู้ประกอบการอู่ต่อตัวถังและผู้ผลิตตัวถังรถ ที่ศูนย์ทดสอบยานยนต์ สํานักวิศวกรรมยานยนต์ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบว่า ผลการทดสอบยังไม่ผ่าน
เมื่อทดสอบความแข็งแรงโครงสร้างรถโดยสารโดยการพลิกคว่ำแล้วรถยุบเข้าในพื้นที่ปลอดภัยของที่นั่งผู้โดยสาร ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะการดำเนินการนั้นเมื่อทดสอบและเกิดอุบัติเหตุต้องไม่ส่งผลกระทบกับที่นั่งผู้โดยสารหรือพื้นที่ปลอดภัยภายในรถโดยสาร ดังนั้นจะต้องไปปรับปรุงแก้ไขใหม่ โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ก่อนนำมาทดสอบอีกครั้ง หากผลทดสอบพบว่ามีความปลอดภัยกับผู้โดยสารสามารถได้โครงสร้างตัวถังรถโดยสารมาตรฐานต้นแบบให้ผู้ที่ประกอบการผลิตรถโดยสารนำไปใช้ประโยชน์และดำเนินการต่อไป
นายยงยุทธ กล่าวว่า ในอนาคตถ้าผู้ประกอบการ จะประกอบรถโดยสารทุกประเภท ทุกขนาด ทั้งรถโดยสารประจำทาง และรถโดยสารไม่ประจำทาง หรือรถ 30 (รถเช่าเหมา) มาตรฐานชั้นเดียว หรือสองชั้น ต้องส่งโครงสร้างรถโดยสาร พร้อมรายละเอียดรถโดยสารที่จะประกอบ เช่น ขนาดรถโดยสาร ความสูงรถและจำนวนที่นั่ง เพื่อ ขบ. ดำเนินการทดสอบความแข็งแรงโครงสร้างรถโดยสารโดยการพลิกคว่ำให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ก่อนที่จะนำไปประกอบรถโดยสารไปใช้งานต่อไป