ผู้โดยสารจีน 39 คน กลุ่ม STV ไม่มีไข้ เช็คอย่างละเอียดในช่วงกักตัว 14 วัน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. หลังจากรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2563 ของผู้โดยสารชาวจีน 39 คน การตรวจสอบเบื้องต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่มีไข้ และต้องรอตรวจอย่างละเอียดในช่วงการกักตัว 14 วัน
นักท่องเที่ยวชาวจีน 39 คน เดินทางมาโดยสายการบิน Spring Airlines เที่ยวบินที่ 9C8579 จากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ช่วงเย็นวานนี้ นักท่องเที่ยวดังกล่าวยังคงต้องผ่านกระบวนการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด–19 ตามมาตรการของรัฐเหมือนกับผู้โดยสารทั่วไปและต้องตกลงยินยอมกักตัวในห้องพัก 14 วัน (ASQ)
ทอท.มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวและมีการประสานการทำงานกับกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานราชการ สายการบินและผู้ปฏิบัติงานภายในสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันให้สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล เช่น การตั้งจุดคัดกรองของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ การจัดเตรียมพื้นที่ตั้งห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยระบบการตรวจหาสารคัดหลั่งทางพันธุกรรม หรือ PCR ซึ่งมีความรวดเร็วและแม่นยำถึงร้อยละ 95 สามารถทราบผลตรวจได้ภายใน 90 นาที
รมว.สธ.คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานรู้แนวทางลดการกักตัว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง เรื่องการลดการกักตัวเป็น 10 วันว่าเป็นการเสนอของกรมควบคุมโรค แต่ได้บอกไปว่าอย่าไปกลัวถ้ามีวิธีการที่ดี หรือมีมาตรการที่ทำให้มั่นใจ ดังนั้นไม่ว่าจะกี่วัน จะเป็น 5 วัน 7 วัน หรือไม่มีเลยก็ได้ แต่ขอให้มีความปลอดภัยเพราะคงไม่ใช่ 14 วันตลอดชีพ โดยกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อม แต่ยังติดปัญหาบางส่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ขอปรับปรุงมาตรการนี้ในบางส่วน โดยขณะนี้กำลังพิจารณาและคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตามทุกประเทศมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งต้องดูในประเทศที่มีการควบคุมการระบาดที่ดีก็จะพิจารณาลดหย่อนให้มากขึ้น แต่หากประเทศที่มีการระบาดมากก็จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและจะอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด แต่จะไม่เท่ากันทุกประเทศ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของประเทศนั้นๆ
ส่วนข้อเสนอการจับคู่พาร์ทเนอร์การท่องเที่ยว เหมือนที่สหภาพยุโรป(อียู) ประกาศอนุญาตให้ผู้เดินทางจากประเทศปลอดภัย นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ก็กำลังทำอยู่ แต่เรายังเชื่อในวิธี Quarantine อยู่ เพราะสิ่งที่ทำมาตลอด 5-6 เดือนที่การมีการ Qarantine สามารถควบคุมการระบาดโรคได้ 100% แต่ที่สำคัญต้องระวังในส่วนของการลักลอบเข้าเมือง นอกจากนี้ ในประเด็นการต่ออายุพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีกหรือไม่ เรื่องนี้ต้องหารือในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.โดยกระทรวงสาธารณสุข ก็จะเตรียมข้อมูลต่างๆ ซึ่งในเรื่องนี้มีหลายปัจจัยไม่ใช่แค่เรื่องการควบคุมโรคอย่างเดียว ดังนั้นจึงต้องรับฟังข้อมูลจากทุกหน่วยงานประกอบด้วย
เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม สำรวจความเห็น การระบาดของโควิด-19 เร่งให้ตลาดแรงงานพึ่งพาแรงงานหุ่นยนต์เร็วขึ้น
การศึกษาของเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม พบว่า หุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่งาน 85 ล้านตำแหน่งในธุรกิจขนาดกลาง ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจาก การระบาดของโรคโควิด-19 ได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสถานที่ทำงาน จากการสำรวจบริษัททั่วโลกเกือบ 300 แห่ง พบว่า 4 ใน 5 ของผู้บริหารระดับสูง กำลังเร่งวางแผนที่จะปรับงานให้เป็นดิจิทัลมากขึ้นและปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ จะทำให้การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วิกฤตการเงินในปี 2550-2551 เปลี่ยนไปในทิศทางกลับกัน ส่งผลให้โดยรวมการสร้างงานกำลังชะลอตัวลง ขณะที่ การลดงานกำลังเร่งตัวขึ้น เนื่องจาก บริษัทต่างๆ ทั่วโลกใช้เทคโนโลยีมากกว่าคน โดยเฉพาะงานป้อนข้อมูล งานบัญชี และงานธุรการ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข่าวดี คือ จะเกิดงานกว่า 97 ล้านตำแหน่งในธุรกิจการดูแล ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และธุรกิจสร้างเนื้อหา โดยธุรกิจที่ต้องการคนงานมากขึ้น เช่น ธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม ธุรกิจข้อมูล และการทำงานของ AI วิศวกรรมสมัยใหม่ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์
5 ตำบล ในอำเภอโชคชัย โคราช น้ำท่วมบ้าน 170 หลัง
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ลำน้ำลำพระเพลิง ซึ่งรับน้ำที่ล้นออกจากเขื่อนลำพระเพลิงและอำเภอโชคชัยจะเป็นอำเภอที่ 2 จะต้องรับน้ำต่อจากอำเภอปักธงชัย ขณะนี้น้ำท่วมอำเภอปักธงชัยเริ่มทรงตัวและลดลงบ้างแล้ว ล่าสุดพบว่าปริมาณน้ำจากลำน้ำลำพระเพลิงเริ่มเอ่อท่วมบางส่วนของอำเภอโชคชัยในลักษณะล้อมรอบพื้นที่ทางทิศตะวันออกและทิศใต้ของอำเภอโชคชัยไว้เกือบหมด เช่น บ้านบิงน้อย ต.โชคชัย น้ำท่วมห้องเช่ากลางหมู่บ้านกว่า 40 ห้อง ประชาชนต้องย้ายไปพักที่อื่นชั่วคราว ที่ ต.กระโทก น้ำท่วมบริเวณปรางค์พะโคโบราณสถานสำคัญ แต่ยังไม่สร้างความเสียหายให้กับตัวปรางค์และส่วนประกอบหลัก ๆ โดยน้ำส่วนหนึ่งยังผ่านทางหลวงหมายเลข 224 สายโชคชัย–ครบุรี บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 35 และ 37 รถยนต์ยังสัญจรได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งหาทางระบายน้ำลงสู่พื้นที่ด้านล่างโดยเร็วที่สุด และกระทบต่อบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชนให้น้อยที่สุด ส่วน ต.พลับพลา โรงเรียนบ้านกอกวิทยา ถูกน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำจากตัวเมืองปักธงชัย และต้องหยุดสอนมาแล้ว 1 สัปดาห์ ตอนนี้ต้องรอให้สถานการณ์คลี่คลายก่อน
นายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย นายอำเภอโชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.ท่าลาดขาว ต.พลับพลา ต.กระโทก ต.โชคชัย และ ต.ท่าจะหลุง มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วม 170 หลังคาเรือน โดยน้ำส่วนใหญ่ยังท่วมขังรอการระบายอยู่ที่ ต.กระโทก และพื้นที่รับน้ำต่อจากอำเภอโชคชัย คือ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ