ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันพุธ 21 ตุลาคม 2563

21 ตุลาคม 2563, 07:44น.


รองอธิบดีกรมชลฯ คุยกับชาวชลบุรี ช่วยลดผลกระทบจากการระบายน้ำ  



          การเตรียมความพร้อมรับมือฝนตกจากอิทธิพลของพายุโซเดลในพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนโดยรอบอำเภอพนัสนิคม อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ประตูระบายน้ำคลองพานทอง 2 เป็นสถานีสูบน้ำเพื่อแก้ปัญหาการเกิดอุทกภัยในเขตพื้นที่ตะวันออกของจังหวัดชลบุรี ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นนิคมอุตสาหกรรมและชุมชนที่อยู่อาศัย เป็นสถานีจุดรวมน้ำในพื้นที่ก่อนระบายลงสู่แม่น้ำบางปะกง ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในเขตพื้นที่นิคมและชุมชนโดยรอบได้ กรมชลประทานมีมาตรการเตรียมความพร้อมในการพร่องน้ำเพื่อรองรับน้ำฝน รวมถึงเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือพร้อมทั้งหาแนวทางแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำ เนื่องจาก จังหวัดชลบุรีเป็นพื้นที่สำคัญในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ (EEC) ตามนโยบายพัฒนาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงด้านการท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรม เทคโนโลยี



เร่งควบคุมน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เตือนสองฝั่งริมแม่น้ำเฝ้าระวัง



          ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยเกือบตลอดสัปดาห์ ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณจังหวัดกำแพงเพชร นครสวรรค์ และพิจิตร ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 889 ลบ.ม./วินาที คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงขึ้นในเกณฑ์ประมาณ 900 – 1,100 ลบ.ม./ต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น โดยบริเวณคลองโผงเผง คลองบางบาล อำเภอบางบาล อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.60 – 1.00 เมตร และหากมีฝนตกเพิ่มเติม จะส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่าเกณฑ์ดังกล่าว





          กรมชลประทานได้ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 700 – 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(ลบ.ม./วินาที) ขณะที่พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักเช่นกัน ทำให้มีปริมาณน้ำที่ต้องเร่งระบายออก ส่งผลให้การระบายน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งทำได้เพียงเล็กน้อย ประกอบกับในระยะนี้มีฝนตกกระจายทั่วทุกพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด



CR:เรารักชลประทาน



3 อำเภอใน จ.สุพรรณบุรี ถูกน้ำท่วมกว่า 15,000 ครัวเรือน



          นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์อุทกภัยและคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย จ.สุพรรณบุรี ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้วจำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สามชุก อ.หนองหญ้าไซ และ อ.สองพี่น้อง รวม 15,929 ครัวเรือน มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 5,530 ไร่ บ่อกุ้ง-บ่อปลา ได้รับผลกระทบ 13 บ่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเครื่องสูบน้ำ รถแบ๊คโฮ เรือ สุขากระดาษ และกระสอบทราย เข้าให้การช่วยเหลือแล้ว  นอกจากนี้ยังได้มอบส้วมกระดาษ จำนวน 390 ชิ้น ให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.หนองหญ้าไซ จำนวน 340 ชิ้น และ ผู้ประสบภัย ต.ศรีสำราญ อ.สองพี่น้อง จำนวน 50 ชุด อีกด้วย



         สภาพอากาศในช่วงนี้ ภาคเหนืออากาศจะเย็นลง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อยลง อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง




นักธุรกิจที่ติดเชื้อโควิด-19 หลังกลับจากเมียนมา ผลตรวจเชื้อยืนยัน 2 ครั้ง เป็นลบ



          สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน จ.ตาก ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา นพ.ธวัชชัย เศรษฐศุภพนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก เปิดเผยถึงการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 กลุ่ม



-กลุ่มแรก ผู้ติดเชื้อเป็นนักธุรกิจ 2 คน ที่เดินทางกลับจากเมียนมาและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแม่สอด มีการตรวจเชื้อยืนยัน 2 ครั้ง พบผลเป็นลบเท่ากับว่าปลอดเชื้อแล้ว แพทย์จึงอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้



-กลุ่มที่สอง ผู้ป่วยชาวเมียนมา 5 คน ยังอยู่ในห้องความดันลบของโรงพยาบาลแม่สอด อาการปกติ ไม่มีไข้ ทีมแพทย์ดูแลตามมาตรฐานรักษาผู้ป่วยโควิด-19



เมียนมา พบหญิงวัย 22 ปี ในเมืองพญาตองซู ติดเชื้อโควิด-19

         รายงานระบุว่า ทางการเมียนมา ในกิ่ง อ.พญาตองซู อ.จะอิเซ็กจี จ.กอกะเร็ก ของเมียนมา เปิดเผยถึงกรณีพบผู้ต้องสงสัยเป็นหญิง อายุ 22 ปี อาศัยอยู่ในชุมชนตองไว ซอย 4 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลพญาตองซู เนื่องจากมีอาการป่วยคล้ายอาการโควิด-19 และมีประวัติเดินทางไปเมืองย่างกุ้ง ต่อมาได้เก็บตัวอย่างน้ำลายส่งไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลย่างกุ้งๆ แจ้งผลตรวจว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 ทางทีมกู้ภัยพญาตองซู จึงนำตัวผู้ป่วยรายนี้ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลจะอิเซ็กจีต่อไป พร้อมส่งทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่สืบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิด เพื่อนำตัวมากักโรคเฝ้าติดตามอาการ ควบคุมตัว 14 วันตามมาตรการควบคุมโรค



         ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในเมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมา ซึ่งติดกับบ้านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นผู้ป่วยคนที่สอง หลังจากก่อนหน้านี้พบผู้ป่วยโควิด-19 คนแรก เป็นชายวัย 17 ปี นายโอ๊กกะโทน ชาวบ้านเมืองพญาตองซู ที่ป่วยโควิด-19 ทำให้ต้องกักตัวบุคคลที่ใกล้ชิดทั้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล กู้ภัย และชาวบ้าน ผู้ใกล้ชิดกว่า 60 คน และผลการตรวจสอบในเวลาต่อมาทั้ง 60 คน มีผลการตรวจเป็นลบ



ผู้ว่าฯกาญจนบุรี ปิดด่านเจดีย์สามองค์ต่ออีกถึงวันที่ 2พ.ย.

         ผลจากการพบผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในพื้นที่เมืองพญาตองซู เมียนมา ทำให้นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ขยายระยะเวลาปิดห้ามเข้า-ออก ของคน ยานพาหนะและสิ่งของในจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ต่อไปอีก 14 วัน  หลังประกาศฉบับล่าสุดมีผลสิ้นสุดเมื่อ วันที่ 19 ต.ค.2563 ขยายเวลาปิดเพิ่มตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.2563 จนถึงวันที่ 2 พ.ย.2563




          จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนของเมียนมา และมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ ขอให้ทุกคนปฎิบัติตาม หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี




 



 




 

ข่าวทั้งหมด

X