ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯจะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้ง 2 คนคือประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกันและนายโจ ไบเดน จากเดโมแครต ต่างใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
โดยหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 74 ปีลงพื้นที่หาเสียงครั้งที่ 2 ที่รัฐแอริโซนาในวันจันทร์ (19 ต.ค.) เขาก็เดินทางต่อไปยังเพนซิลเวเนียในวันอังคาร (20 ต.ค.) ขณะที่นางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ที่มีกำหนดเข้าร่วมการรณรงค์เพื่อเรียกคะแนนสนับสนุนจากกลุ่มสตรีต้องยกเลิกการเดินทางเนื่องจากมีอาการไอเรื้อรัง
ส่วนนายไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีวัย 77 ปีซึ่งมีคะแนนนิยมนำประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มีกิจกรรมสาธารณะในวันอังคาร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดีเบตในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ซึ่งทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์เห็นว่านายไบเดนกำลังหลบซ่อนตัวนอกจากนี้ในการปราศรัยหาเสียงเขายังกล่าวเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯดำเนินคดีนายไบเดนจากการสมคบคิดในการดำเนินธุรกิจครอบครัว และกล่าวหาว่านายฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายของนายโจ ไบเดน มีพฤติกรรมทุจริต
จากการสำรวจคะแนนนิยมโดย The New York Times / Siena College พบว่านายไบเดน มีคะแนนนิยมมากกว่าประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ 9 จุด (ไบเดน 50%,ทรัมป์ 41%)
ขณะที่ผลการสำรวจของ CNN ระบุว่า นายไบเดนมีคะแนนนิยมมากกว่าประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ 11 จุด (ไบเดน 53%,ทรัมป์ 49%)
....