*รองปธ.สนช. เผย 8-9 ม.ค. เริ่มกระบวนการถอดถอน สมศักดิ์-นิคม*

มุมมองสถานการณ์ทางการเมืองในปี 2558 นาย พีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติคนที่ 2 ระบุว่าจะเป็นปีที่รัฐบาลของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินการปฎิรูปประเทศในระยะที่ 2 และ 3 ตามโรดแมปที่วางไว้เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งในต้นปี 2559 จะเป็นปีที่สร้างกติกาและกฎระเบียบในการพัฒนาประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้หวังคะแนนนิยมเพื่อปูทางไปสู่การเล่นการเมืองในอนาคต  พร้อมได้ฝากไปยังรัฐบาลด้วยว่า ควรสื่อสารและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนมากขึ้น เพราะส่วนตัวยังรู้สึกว่าประชาชนและนักลงทุนยังขาดความมั่นใจต่อการทำงานของรัฐบาล

ส่วนการถอดถอนนาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา นาย นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเริ่มแถลงเปิดคดีถอดถอนในวันที่ 8และ 9 มกราคมตามลำดับนั้น นาย พีระศักดิ์ ระบุว่า การเริ่มพิจารณาถอดถอนในช่วงหลังปีใหม่ไม่ได้เป็นการเร่งพิจารณาคดี แต่เป็นช่วงเวลาตามข้อบังคับสนช.ที่ระบุไว้ เชื่อว่าการถอดถอนจะไม่เป็นการจุดชนวนให้การเมืองระอุตั้งแต่ต้นปี พร้อมระบุว่าการถอดถอนดำเนินไปตามหลักกฎหมาย และจะถอดถอนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสมาชิกสนช. ยืนยันว่าไม่มีใบสั่งจากกลุ่มบุคคลใดและสนช.มีความเป็นอิสระในการทำงานทุกขั้นตอน

ส่วนการมีทหารมานั่งเป็นสมาชิกสนช.จำนวนมาก เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการพิจารณากฎหมาย เพราะสมาชิกที่เป็นทหารก็มีความรู้ทางกฎหมายพอสมควร อีกทั้งยังมีการอภิปรายถึงข้อกฎหมายในร่างพระราชบัญญัติต่างๆและมีการศึกษาข้อกฎหมายอยู่เสมอ และทหารที่เป็นสมาชิกสนช.สามารถทำงานได้แน่นอน

สำหรับการยกเลิกกฎอัยการศึก ส่วนตัวไม่ขอพูดถึง เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะเป็นผู้พิจารณา ทั้งนี้กฎยกอัยการศึกไม่ส่งผลต่อการปฎิรูปประเทศและการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน  อีกทั้งกฎอัยการศึกก็ผ่อนคลายอยู่แล้วในขณะนี้ เห็นจากการที่สนช.สามารถจัดเสวนารับฟังความเห็นประชาชนที่จ.บึงกาฬและมุกดาหารและการที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯได้เปิดทางให้พรรคการเมืองเข้าเสนอความเห็นได้

ขณะที่การรับฟังความเห็นจากประชาชน สนช.ก็มีคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นอยู่แล้ว และหากประชาชนต้องการเสนอความเห็นหรือร้องเรียนปัญหาก็สามารถยื่นหนังสือที่รัฐสภาหรือส่งเรื่องมาที่สมาชิกสนช.ทุกคนได้ ยืนยันว่าทุกเรื่องมีการนำมาพิจารณาเพื่อนำไปพัฒนาประเทศแน่นอน