ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.วันอังคารที่ 20 ตุลาคม 2563

20 ตุลาคม 2563, 06:07น.


เจ้าหน้าที่ทูตจีน-ไต้หวัน ต่อยกันกลางงานเลี้ยงที่ฟิจิ



          สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์ รายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ว่า น.ส.โจแอนน์ อู๋ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่การทูตจีน 2 คน บุกรุกเข้าไปในงานเลี้ยงรับรองฉลองวันชาติไต้หวัน โรงแรมหรู แกรนด์ แปซิฟิก ในกรุงซูวา เมืองหลวงฟิจิ เมื่อคืนวันที่ 8 ต.ค. โดยไม่ได้รับเชิญ สำนักงานการค้าไทเป หรือสถานทูตไต้หวัน เป็นเจ้าภาพต้อนรับแขกผู้มีเกียรติประมาณ 100 คน ในงานฉลองวันชาติไต้หวัน



          น.ส.อู๋ กล่าวว่า หลังจากเข้าไปในงานเลี้ยง เจ้าหน้าที่การทูตจีน 2 คน เริ่มบันทึกภาพแขกและเมื่อเจ้าหน้าที่ไต้หวันเข้าไปห้ามและเชิญให้ออกไปข้างนอก ทั้ง 2 คนรุมชกต่อยเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟิจิ กันเจ้าหน้าที่การทูตจีนทั้ง 2 คนออกไป ไต้หวัน ขอประณามอย่างรุนแรง ต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนในฟิจิ ซึ่งละเมิดหลักนิติธรรม กฎกติกามารยาทอย่างร้ายแรง



          ด้านโฆษกสถานทูตจีนในกรุงซูวา ยืนยันว่า ในวันที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จากสถานทูตจีนเข้าไปอยู่ในพื้นที่สาธารณะนอกบริเวณจัดงานเลี้ยง เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน ได้รับมอบหมายหน้าที่อย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่ไต้หวันยั่วยุกวนโทสะทำให้เจ้าหน้าที่การทูตจีนคนหนึ่งบาดเจ็บและทรัพย์สินติดตัวเสียหาย



          ขณะที่ นายจ้าว หลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จากสถานทูตจีนในกรุงซูวา ทราบเป็นอย่างดีว่า ภายในงานจัดเลี้ยง มีการประดับธงชาติไต้หวันไม่ถูกต้อง และประดับหน้าเค้กกลางงานเป็นรูปธงชาติไต้หวันเช่นกัน หลังเกิดเหตุเผชิญหน้า ตำรวจฟิจิเข้าห้ามปรามและแยกทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกัน และฝ่ายไต้หวัน บิดเบือนว่าเจ้าหน้าที่ของตนถูกทำร้าย



CR:South China Morning Post



ชาวกัมพูชา เสียชีวิตจากน้ำท่วม 25 ราย ใน 19 จังหวัด 



          โฆษกคณะกรรมการการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (NCDM) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในกัมพูชา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 ราย ประชาชนต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยกว่า 37,396 คน

ฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นทำให้น้ำท่วม 19 จังหวัดจากทั้งหมด 25 จังหวัดตั้งแต่ต้นเดือนและมีประชาชนได้รับผลกระทบ 312,224 คน จังหวัดที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ จ.บ้านใต้มีชัย จ.พระตะบอง จ.โพธิสัต และจ.กันดาล รวมถึงชานกรุงพนมเปญ บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม 73,720 หลัง พื้นที่ทำการเกษตรและนาข้าวจมอยู่ใต้น้ำกว่า 1,800,000 ไร่

          โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า มีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าและรองเท้า 77 แห่งในกรุงพนมเปญและจ.กันดาล ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และในจำนวนดังกล่าวมีโรงงาน 23 แห่ง ต้องปิดทำงานชั่วคราว ทำให้แรงงานราว 17,000 คน ได้รับผลกระทบ



          ด้านนายกรัฐมนตรีฮุนเซน โพสต์ข้อความบนหน้าเพจเฟซบุ๊กว่า รัฐบาลสามารถระดมเงินบริจาคจากผู้ใจบุญเพื่อช่วยเหลือเหยื่ออุทกภัยได้มากกว่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำกัมพูชา เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม และประกาศให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมครอบครัวละ 10 ล้านเรียล หรือประมาณ 76,000 บาท ขณะที่ จ.บ้านใต้มีชัย ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรุนแรงที่สุด จะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม



เมืองเซโปน เมืองที่มีเหมืองทองที่ใหญ่ที่สุดในลาว ถูกน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 42 ปี



          ผลกระทบจากพายุนังกา ที่ขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ตั้งแต่เย็นวันที่ 14 ต.ค.2563 ทำให้เมืองเซโปน แขวงสะหวันนะเขต เมืองซึ่งเป็นที่ตั้งเหมืองทองที่ใหญ่ที่สุดของสปป.ลาว เกิดน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 42 ปี ถนนหมายเลข 9 ถูกตัดขาด ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกตะวันตก (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต-ท่าเรือดานัง) ถูกน้ำท่วมสูง



          ฝนเริ่มตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่เย็นวันที่ 16 ต.ค.2563 ในเมืองเซโปน ที่ตั้งเหมืองทองของบริษัทล้านช้างมิเนอรัล เหมืองทองคำซึ่งใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว ทำให้น้ำในแม่น้ำลำคลองหลายสายเอ่อล้น ถนนในตัวเมืองหลายจุดเริ่มถูกตัดขาด เช่น เส้นทางจากเมืองมองไปยังบ้านดง ชาวบ้านต้องอาศัยเรือในการสัญจรไปมา



          วงสะหวัน เวียงมะนี เจ้าเมืองเซโปน ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือมอบสิ่งของจำเป็นให้ชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัว ที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วม จนต้องอพยพมาอยู่ในพื้นที่สูง ชาวบ้านที่อพยพหนีน้ำไม่ทันต้องขึ้นไปอาศัยอยู่บนหลังคาบ้านที่น้ำสูงขึ้นจนเกือบมิด วัดหลายแห่งในตัวเมือง น้ำท่วมสูงจนเกือบถึงหลังคาโบสถ์

สหรัฐฯ ติดโควิด-19 พุ่งเกือบทุกรัฐ เหลือเพียงรัฐมิสซูรี กับ เวอร์มอนต์ 



          โรคโควิด-19 กลับมาระบาดอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ โดย 48 รัฐ จาก 50 รัฐ มีผู้ติดเชื้อมากขึ้น ค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 55,000 คน และเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ต.ค. 2563 สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 70,000 คน ทำลายสถิติสูงสุดในเดือนก.ค.2563 ขณะเดียวกัน อัตราการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาล ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้นใน 39 รัฐทั่วประเทศ รวมทั้งที่รัฐวิสคอนซิน พื้นที่สำคัญในการเลือกตั้งสหรัฐฯ จนเจ้าหน้าที่ต้องจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วย

          ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ตอนนี้ในสหรัฐฯ เหลือเพียงรัฐมิสซูรี กับ เวอร์มอนต์ เท่านั้นที่มีแนวโน้มการระบาดลดลง จำนวนผู้เสียชีวิตจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนการระบาดในช่วงแรก เนื่องจากผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่มีอัตรารอดชีวิตสูงกว่ากลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัว



          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประณาม นพ.แอนโธนี เฟาชี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อระดับแถวหน้าของสหรัฐฯ และเคยเป็นที่ปรึกษาการรับมือโควิด-19 ของทำเนียบขาว ว่า เป็นหายนะ และอ้างว่าผู้คนคงเสียชีวิตมากกว่านี้ หากเขาฟังคำพูดของนพ.เฟาชีๆคือหายนะ ผู้คนเบื่อจะฟังคำพูดของเขา

“ทรัมป์-ไบเดน” ดีเบต ครั้งสุดท้ายเช้าวันศุกร์ 08.00 น.



           การเมืองสหรัฐฯกำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย.2563 เหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ ก็จะเป็นการชี้ชะตาว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกัน หรือนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต จะได้ครอบครองทำเนียบขาว การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปีนี้ ส่อเค้าว่าคนอเมริกันจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันถล่มทลาย ขณะนี้ มีผู้ออกไปเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วถึงเกือบ 10 ล้านคน โดยเฉพาะในรัฐแบทเทิลกราวด์สเตท หรือบรรดารัฐที่จะชี้ชะตาว่าใครคือประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ



           คณะกรรมการจัดการดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงว่า การดีเบตรอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และนายไบเดนจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 22 ต.ค.เวลา 21.00-22.30 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับเช้าวันศุกร์ที่ 23 ต.ค.เวลา 08.00-09.30 น.ตามเวลาไทย ที่มหาวิทยาลัยเบลมอนต์ ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี โดยมีคริสเทน เวลเกอร์ เป็นพิธีกร



           การดีเบตดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่ผลสำรวจของทุกสำนักโพลล์ต่างฟันธงว่านายไบเดน จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง หัวข้อในการแสดงวิสัยทัศน์ในการดีเบตรอบนี้ ได้แก่ การแก้ปัญหาโควิด-19  ภาวะการเป็นผู้นำสหรัฐฯ ความขัดแย้งด้านเชื้อชาติในสหรัฐฯ การแก้ไขปัญหาโลกร้อน รวมทั้งประเด็นด้านความมั่นคงแห่งชาติ และภาคครัวเรือนในสหรัฐฯ



 

ข่าวทั้งหมด

X