ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563

16 ตุลาคม 2563, 07:17น.


เปิดลงทะเบียนคนละครึ่งรับเงิน 3,000 บาทแล้ว



          www.คนละครึ่ง.com เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งเพื่อรับสิทธิ์เงิน 3,000 บาท แล้วตั้งแต่เวลา 06.00 น.-23.00 น. ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ระบบการลงทะเบียนและแอปพลิเคชันต่างๆ ของโครงการมีการพัฒนาและขยาย bandwidth เพื่อรองรับการลงทะเบียนของประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้พร้อมกัน 100,000 คนต่อวินาที



          แต่ผู้ได้รับสิทธิ์และใช้สิทธิ์ตามโครงการคนละครึ่งแล้ว จะไม่สามารถเข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนได้ จึงขอให้พิจารณาเข้าร่วมโครงการหรือมาตรการที่เหมาะสมกับการใช้จ่าย



          ขณะนี้มีผู้ประกอบการร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งแล้ว 236,648 ร้านค้า แบ่งเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม 115,824 ร้านค้า ร้านธงฟ้า 42,382 ร้านค้า ร้านโอทอป 9,564 ร้านค้า และร้านค้าทั่วไปและอื่น ๆ 68,878 ร้านค้า ซึ่งทุกร้านมีความพร้อมรองรับการใช้จ่ายที่จะเริ่มวันที่ 23 ตุลาคมนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าที่ยังไม่ลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ระหว่างเวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขาธนาคารกรุงไทย หรือจุดรับลงทะเบียนในวันและเวลาทำการ โดยธนาคารกรุงไทยจะช่วยติดตั้งและแนะนำการใช้แอปพลิเคชั่นถุงเงิน เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า



'หวัง อี้' พบนายกฯ ชื่นชมแก้โควิด-19 พร้อมช่วยไทยเรื่องวัคซีน



          นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ



          ทั้งนี้ นายหวัง อี้ ได้ชื่นชมรัฐบาลไทยในการดำเนินการเรื่องโควิด-19 และยืนยันว่าวัคซีนต้านโควิด-19 ที่จีนพัฒนาขึ้นจะเป็นสมบัติสาธารณะ ไม่ใช่สินค้าเพื่อแสวงหากำไร และประเทศจีนจะให้ความสำคัญกับประเทศไทยเป็นลำดับต้นๆ นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการเปิดประเทศ



นักลงทุนกังวลสถานการณ์ชุมนุมซ้ำเติมเศรษฐกิจ



          ส่วนกรณีที่มีการชุมนุมประท้วง นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยังเชื่อว่า รัฐบาลน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งหากควบคุมสถานการณ์ได้ ก็จะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่หากบานปลายเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นก็จะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างแน่นอน



          ด้านนายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) กล่าวว่า การส่งเสริมพัฒนาธุรกิจระหว่างไทยกับญี่ปุ่นไม่ได้รับผลกระทบ โดยกิจกรรมทางธุรกิจที่เจโทรส่งเสริมสนับสนุนนักธุรกิจญี่ปุ่นดำเนินการในประเทศไทยย้ำถึงความมั่นใจ และมีความสนใจทำธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย



สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เตือนปัจจัยลบฉุดเศรษฐกิจจับตาการเมืองใกล้ชิด



          ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เตือนว่าปัจจัยลบภายในประเทศจะดึงเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวช้า นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยรายงานสรุป 10 ข้อเศรษฐกิจไทย 2563 และปัจจัยเบื้องต้นผลักดันเศรษฐกิจในปี 2564 โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว ประเมินทั้งปีเศรษฐกิจจะหดตัวร้อยละ 8 และคาดว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้า จากปัจจัยลบภายในประเทศ และความไม่แน่นอนต่างประเทศ โดยคาดจะฟื้นกลับมาเติบโตที่ร้อยละ 2 ในปี 2564 ขณะที่ตัวเลขส่งออกของประเทศเกิดใหม่ และภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้น แต่กลไกขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย คือ การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น ดังนั้น ถึงแม้ว่าการส่งออกจะดีขึ้น แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมจะยังไม่มั่นคง ถ้าการท่องเที่ยวยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้



          โดยภาพรวมยังอยู่ในลักษณะติดตามสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคลัง การเบิกจ่าย สถานการณ์การเมือง การเริ่มเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว การคิดค้นวัคซีนต้านโควิด-19 ตลาดการเงินอาจจะมีความมั่นใจมากขึ้น หากรัฐบาลมีการเบิกจ่ายในทิศทางที่ดีขึ้น มีการลงทุนของรัฐบาล



....

ข่าวทั้งหมด

X