นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือของทั้งสองฝ่ายว่า การเดินทางเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ นายหวัง อี้ ตั้งใจมาเยี่ยม แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งนายหวัง อี้ ได้ขอบคุณประเทศไทยที่ให้ความร่วมมือในด้านต่างๆ และชื่นชมรัฐบาลไทยในการดูแลสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ยังพูดเรื่องความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนของจีน ซึ่งจีนพูดชัดเจนว่า เมื่อผลิตวัคซีนได้แล้วจะให้เป็นส่วนของสาธารณะ ไม่ใช่สินค้าเพื่อแสวงหากำไร และประเทศจีนจะให้ความสำคัญกับประเทศไทยเป็นลำดับต้นๆ ด้วย
นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน มีการพูดถึงเรื่องฟาสต์เลน และกรีนเลน ซึ่งฟาสต์เลน คือ การเตรียมตัวเปิดประเทศไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน ซึ่งอาจจะเป็นกรณีพิเศษ โดยทางไทยได้แจ้งกับนายหวัง อี้ ว่าจะมีการประชุมกับศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ในเร็วๆนี้ เพื่อดำเนินการในรายละเอียดเกี่ยวกับ State quarantine และกฏระเบียบในการเข้ามาในประเทศไทย เพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็วและรัดกุม
ในการหารือระหว่างสองฝ่าย ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับการลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ทางจีนให้ความสำคัญและรู้สึกว่าไทยเป็นหุ้นส่วนที่ดีทางด้านการค้าการลงทุน รวมถึงโครงการเส้นทางสายไหมที่จะมีส่วนให้ไทยเป็นส่วนสำคัญในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ขณะเดียวกันได้พูดคุยถึงการบริหารจัดการน้ำที่มีความก้าวหน้าไปมาก
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ถือเป็นโอกาสอันดีในวาระครบรอบ 45 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และยังเป็นโอกาสในการยืนยันความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทยกับจีน พร้อมกันนี้ยังฝากความระลึกถึงและความปรารถนาดีไปยัง ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ซึ่งการพบกันในครั้งนี้มีขึ้นในช่วงที่ทั่วโลกประสบกับความท้าทายร่วมกันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงเป็นโอกาสสำคัญอย่างยิ่งที่จะยืนยันความพร้อมร่วมมือกันเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังฝากคำขอบคุณถึงประธานาธิบดีสี ที่ให้คำมั่นในการดูแลข้อห่วงกังวลของประเทศในอนุภูมิภาค เกี่ยวกับระดับน้ำในแม่น้ำโขง พร้อมชื่นชมพัฒนาการความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในแม่น้ำโขงและแม่น้ำล้านช้าง ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation-MLC) ที่ได้ประชุมร่วมกัน และไทยยินดีสนับสนุนงาน China International Import Expo (CIIE) ครั้งที่ 3 และงานแสดงสินค้าอาเซียน-จีน (CAEXPO) ครั้งที่ 17 ในเดือน พ.ย. 2563 ที่ประเทศจีน