พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกประกาศ ตามมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ตามที่ได้มีการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 วรรค 2 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรี จึงออกประกาศให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจดังต่อไปนี้
1. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทำเช่นว่านั้น หรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้ เท่าที่มีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันมิให้บุคคลนั้นกระทำการหรือร่วมมือกระทำการใดๆ อันจะทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงหรือเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรง โดยปฎิบัติตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
2. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งเรียกให้บุคคลมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่
3. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งยึดหรืออายัดอุปกรณ์ หรือเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารหรือส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ อาวุธ สินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใด ในเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
4. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจค้น รื้อ ถอน หรือทำลาย อาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งกีดขวางตามความจำเป็น ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อระงับเหตุการณ์
5. ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบมีอำนาจสั่งห้ามมิให้บุคคลกระทำการใด ๆ หรือสั่งให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการใดๆ เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ
6. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งการ ห้ามกระทำการปิดการจราจร ปิดเส้นทางคมนาคม
7. การดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ใช้มาตรการตามความจำเป็นและเหมาะสม ระมัดระวังมิให้การปฎิบัติหน้าที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควร
ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาในการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศนี้ได้ตามที่เห็นสมควร