ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันพุธที่ 14 ตุลาคม 2563

14 ตุลาคม 2563, 07:37น.



ลุ้นฝน เติมน้ำในอ่าง 6 แห่ง ด้าน กอนช.ประชุมสรุปแผนการเพาะปลูก



          รายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศดีขึ้น หากเทียบจากช่วงก่อนที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 พ.ค.พบว่ามีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่าร้อยละ 30 อยู่ถึง 31 แห่ง แต่ขณะนี้ยังคงเหลืออ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยอยู่เพียง 6 แห่ง โดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 670 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปัจจุบันมีน้ำใช้การได้ร้อยละ 13 สูงสุดในรอบ 2 ปี หลังจากปี 2560 ที่เกิดน้ำท่วม ขณะที่ อ่างเก็บน้ำในภาคตะวันออกที่ต้นฤดูฝนมีน้ำน้อยและน่าเป็นห่วง แต่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างมากขึ้นเช่นกัน จากอิทธิพลพายุโซนร้อน หลิ่นฟา ซึ่งเป็นพายุลูกสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่หน้าหนาวเดือน ต.ค.



          ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมกัน ประมาณ 11,952 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 48 ของความจุอ่างรวมกันมีน้ำใช้การได้ประมาณ 5,256 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำใช้การได้ของ 4 เขื่อนหลัก ยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อย ทั้งที่ใกล้สิ้นสุดฤดูฝนแล้ว ปีนี้คาดการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณ 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตร 



          สำหรับเกษตรกรปลูกข้าวนาปีที่ได้ทยอยเก็บเกี่ยวข้าวไปแล้วบางส่วน และจะหว่านเพื่อปลูกต่อทันที ยังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะขาดน้ำ ในขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนจะต้องสำรองไว้ใช้แล้งหน้าให้มากที่สุด แม้เริ่มเก็บเกี่ยวแล้ว แต่จะมีบางส่วนที่คิดว่ามีน้ำพอ จึงเสี่ยงทำต่อเลย ซึ่งไม่มีการรับประกันว่าน้ำจะเพียงพอ แม้จะขอให้ชาวนางดทำนาปีต่อเนื่อง จนกว่าจะประกาศให้สามารถทำนาปรังได้



         ในวันนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) จะประชุมประเมินสถานการณ์น้ำและแผนเพาะปลูกก่อนที่จะเสนอพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานพิจารณาบริหารจัดการน้ำและเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติมาตรการรับมือก่อนเข้าสู่ฤดูแล้งและจัดการกักเก็บน้ำให้สมดุลที่สุด



CR:กรมชลประทาน



โคราช เตือนระดับสีแดง น้ำล้นตลิ่งในลุ่มน้ำมูล



          สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา เช่น ที่วัดบ้านท่าลาดขาว ต.ท่าลาดขาว อ.โชคชัย ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้นำชุมชนระดมลูกบ้านช่วยกันลอกคลองเปิดทางน้ำให้ไหลระบายได้อย่างสะดวก ขณะที่น้ำในคลองชลประทาน ยังมีปริมาณมากและไหลเชี่ยว ระดับน้ำเอ่อเสมอขอบคันคลองชลประทาน และบางจุดน้ำเอ่อล้นท่วมเส้นทางสัญจรและหลากลงสู่นาข้าว ทำให้ต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องถูกน้ำพัดจมน้ำเสียหายจำนวนมาก



          ระดับน้ำในลำน้ำมูล ที่สถานีวัดน้ำ M173 บ้านโนนสะอาด ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย ระดับน้ำสูงถึง 6.60 เมตร ต้องแจ้งเตือนภัยระดับสีแดง เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง เช่นเดียวกับ ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ M.184 ที่บ้านซึม ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย ระดับความลึกของลำน้ำมูลที่จุดนี้ สูงถึงตลิ่งวัดได้ 5 เมตร แต่ระดับน้ำที่วัดได้มากถึง 5.28 เมตร ต้องแจ้งเตือนภัยระดับสีแดง เพราะน้ำล้นตลิ่งสูงถึง 28 ซม. ทำให้ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว ส่วนระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ M.2A บ้านด่านกะตา ต.พระพุทธ อ.เฉลิมพระเกียรติ ระดับน้ำสูง 5.21 เมตร จากระดับความสูงถึงตลิ่ง 5.30 เมตร แจ้งเตือนภัยระดับสีส้ม เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง



ภาคใต้ ทั้งฝน-ทั้งลม เตรียมรับมือน้ำท่วม 24 ชั่วโมง



          ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา รายงานว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนหนักและปริมาณฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก



-จ.สงขลา ฝนที่ตกต่อเนื่องหลายวันทำให้ระดับในคลองธรรมชาติปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ที่รับผิดชอบพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมโดยเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าประจำการ เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง



-จ.สตูล ฝนตกหนักติดต่อกัน 4 วัน ทำให้แม่น้ำลำคลองสายหลักมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ราบลุ่มริมตลิ่งมีน้ำเอ่อล้นท่วมหมู่ 5 และ 6 ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมขัง 27 ครัวเรือน



-จ.พังงา ฝนตกหนักตลอดทั้งวัน มีลมกระโชกแรง ส่วนคลื่นลมในทะเลตลอดแนวชายหาดเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า ชายหาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง คลื่นมีกำลังแรง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร



-จ.ตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เน้นพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ อ.นาโยง



ข้าราชการทำเนียบทำงานตามปกติ –นายกฯ พร้อมครม. ทำกิจกรรมจิตอาสาที่ จ.ปทุมธานี



          การชุมนุมของหลายกลุ่มในวันนี้ 14 ต.ค. นายประทีป กีรติเรขา รองเลขานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ในฐานะที่ดูแลความเรียบร้อยภายในทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า วันนี้ข้าราชการทุกหน่วยงานในทำเนียบรัฐบาล ปฏิบัติงานตามปกติไม่มีคำสั่งให้หยุดงานหรือกลับบ้านเร็วเป็นพิเศษ ในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ ครม.จะเดินทางไปทำกิจกรรมจิตอาสา ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ตามกำหนดการไว้ล่วงหน้าเป็นเดือนแล้ว

          พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.) ประสานงานทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า การดูแลความเรียบร้อยได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นผู้รับผิดชอบ และขณะนี้มีแผนรองรับไว้หมดแล้ว



ผบ.ตร. ยืนยัน ไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมนอนค้างคืน



          พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ระบุว่า ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ การชุมนุมไม่อนุญาตให้ค้างคืน ส่วนการเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้ชุมนุมต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ในการชุมนุมสาธารณะตามกฎหมาย ตามข้อกฎหมายมีระยะห้ามชุมนุมกำหนดไว้ว่าไม่ให้ชุมนุมในระยะ 50 เมตร ทั้งนี้หากเป็นการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย คนที่ร่วมกันจัดต้องมีส่วนรับผิดชอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีแผนรับมือไว้ บช.น.อยู่ระหว่างประสานกับแกนนำผู้ชุมนุม ต้องมีมาตรการคัดกรองโรคโควิด-19 ก็หวังว่าจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่




 

ข่าวทั้งหมด

X