หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้ายของปี2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวว่าอยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ทำงานให้กับประเทศต่อไปอย่าถอย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณที่พลเอกเปรมชื่นชม แต่จะอยู่ทำงานตามโรดแมพที่กำหนด คำนึงถึงการแก้ไขปัญหาของประเทศและการดูแลความสงบเรียบเรียบร้อยหลัก ส่วนกรณีที่พลเอกเปรม พูดถึง คนคนหนึ่งที่เคยกล่าวว่า ทหารทำอะไรไม่เป็นทำเป็นแต่ถือปืน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้สนใจว่าใครจะวิจารณ์อย่างไร เพราะทำงานเพื่อบ้านเมืองมามากมาย แต่จะทำให้ถูกใจคน60ล้านคนเป็นไปไม่ได้
ด้านคณะกรรมาธิการ หรือกมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้กำหนดว่านายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ เชื่อว่า ในเรื่องนี้ไม่ใช่การเปิดช่องว่างให้ตนเอง แต่เชื่อว่าในช่วงวิกฤต กมธ.ต้องการให้มีผู้มีอำนาจเต็มเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ ขณะเดียวกันเห็นว่า การเข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรในลักษณะนี้ไม่น่าจะมีใครต้องการ ส่วนปัญหาสีเสื้อ ต้องแยกให้ออกระหว่างประชาชนกับกลุ่มสนับสนุนการเมือง เพราะงานดัานการเมืองจะมีกลุ่มเห็นต่าง แต่ต้องคำนึงเสียงส่วนน้อย ไม่ควรบังคับเสียงส่วนน้อยให้ยอมในเรื่องที่เห็นต่าง แต่ต้องหาจุดร่วมกัน
นายกรัฐมนตรีชี้แจง กรณีถูกกล่าวหาว่า เป็นเผ็ดจการรัฐประหาร อยากให้มองถึงเผด็จการรัฐสภาที่เคยเกิด ซึ่งมีเสียงเท่ากันในสภาว่า เป็นไปได้หรอไม่ ดังนั้นต้องมองกลไกแก้ไขปัญหาที่กำลังดำเนินการปฏิรูปอยู่ แต่ก็จะต้องดำเนินการต่อเนื่องไม่ใช่เพียง1ปีแล้วจะสำเร็จ
นอกจากนั้นยังได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรม ทำความเขัาใจกับประชาชนให้ชัดเจน ทั้งคำว่า นิรโทษกรรม ปรองดอง และการอภัยโทษ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรี เห็นว่าทั้ง3คำมีความแตกต่างกันในด้านกฏหมาย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี เตือน นักการเมืองว่า อย่ากังวลเรื่องการเข้าสู่อำนาจ เพราะหากเป็นคนดีจริง ประชาชนก็จะเลือกให้เขัาสู่อำนาจเอง แผ่นดินไทยถือป็นแผ่นดินที่ศักดิ์สิทธิ์ใครทำไม่ดีก็จะได้รับผลกรรมเอง
บุศรินทร์ข่าว/วิรวินท์ ภาพ