บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ของสหรัฐฯระบุว่า บริษัทแจนส์เซน ฟาร์มาซูติคอล ผู้วิจัยวัคซีนในเครือของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หยุดทดลองวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในเฟส 3 ชั่วคราว หลังอาสาสมัครคนหนึ่งป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งตามระเบียบปฏิบัติของบริษัทและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ คณะกรรมการจากภายนอกที่รับผิดชอบการตรวจสอบข้อมูลและความปลอดภัยของการวิจัยวัคซีน พร้อมกับคณะแพทย์ของบริษัทจะร่วมกันสอบสวนสาเหตุการป่วยว่าเป็นผลโดยตรงจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ หรือเป็นเหตุบังเอิญ อีกทั้งจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า การเจ็บป่วยดังกล่าวเกิดกับกลุ่มอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนโดยตรง หรือกลุ่มที่ได้รับยาหลอก(Placebo)
ทั้งนี้ กรณีร้ายแรง เช่น การเจ็บป่วย หรือความผิดพลาดที่เกิดโดยเหตุบังเอิญ ถือว่าเป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการทดลองทางคลินิกเนื่องจากเป็นการทดลองวัคซีนกับอาสาสมัคร 60,000 คน นับว่ามีจำนวนมาก แต่บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันไม่ได้เปิดเผยว่าความเจ็บป่วยของอาสาสมัครเกิดขึ้นในลักษณะใด แต่หนึ่งในวัตถุประสงค์ของการทดลองทางคลินิกคือการตรวจสอบว่าวัคซีนทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายหรือไม่
สำหรับวัคซีนของบริษัทแจนส์เซน ฟาร์มาซูติคอล เป็นหนึ่งในวัคซีน 6 ตัวที่อยู่ระหว่างการทดลองในสหรัฐฯและเป็นหนึ่งในวัคซีน 4 ตัวที่อยู่ระหว่างการทดลองในเฟสสุดท้ายหรือเฟสที่ 3 เป็นวัคซีนที่ทดลองโดยฉีดเพียงหนึ่งเข็มเท่านั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯคาดว่าการทดลองวัคซีนของบริษัทแจนส์เซน ฟาร์มาซูติคอล อาจจะเสร็จสิ้นการทดลองเร็วกว่าวัคซีนอื่นๆเช่น บริษัทโมเดอร์นาและบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐฯ ซึ่งทดลองด้วยการฉีดวัคซีนให้อาสาสมัคร 2 เข็ม ทำให้ต้องใช้เวลาทดลองนานกว่าถึงจะเสร็จ
Cr: CNN