ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563

13 ตุลาคม 2563, 06:45น.


เวียดนาม กังวล พายุนังกา ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเลวร้ายลงกว่าเดิม



          เวียดนาม กังวลว่าสถานการณ์น้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่ภาคกลางจะได้รับผลกระทบหนักมากขึ้นเนื่องจากพายุอีกลูกที่คาดว่าจะพัดเข้าเวียดนามในวันพรุ่งนี้หรือวันพฤหัสบดี จะทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเลวร้ายลงกว่าเดิม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเวียดนาม คาดว่า พายุนังกา จะขึ้นฝั่งทางภาคเหนือในวันพุธ จะทำให้เกิดฝนตกหนักถึง 400 มิลลิเมตรในบางพื้นที่ของภาคเหนือและภาคกลางของประเทศตั้งแต่วันพุธนี้ไปจนถึงวันศุกร์



          ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัยในเวียดนาม ขยับเพิ่มเป็นอย่างน้อย 23 ราย สูญหายอย่างน้อย 14 คน หน่วยงานจัดการภัยพิบัติระดับชาติ ระบุว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกกระแสน้ำพัด และยังมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 13 ราย จากเหตุดินถล่มทับคนงานก่อสร้างบริเวณเขื่อนไฟฟ้าใน จ.เถื่อเทียนเว้ ทางการส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปให้ความช่วยเหลือ  เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอพยพประชาชนเกือบ 46,000 คน ออกจากพื้นที่ประสบภัย บ้านเรือนราษฎรมากกว่า 109,000 หลัง และพื้นที่เพาะปลูกกว่า 3,600 ไร่ จมอยู่ใต้น้ำ ถนนและสะพานหลายแห่งได้รับความเสียหาย



คนงาน ทยอยกลับไปที่แท่นขุดเจาะน้ำมันอ่าวเม็กซิโก หลังพายุเดลตา ผ่านไปแล้ว

          เฮอริเคนเดลตา ส่งผลกระทบต่อกำลังผลิตพลังงานในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ หนักหน่วงที่สุดในรอบ 15 ปี ลดระดับความรุนแรงลงเป็นพายุหมุนเขตร้อนแล้วเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้คนงานทยอยเดินทางไปยังแท่นขุดเจาะน้ำมันตามเดิม ด้านบริษัทโททัล บริษัทน้ำมันสัญชาติฝรั่งเศส เริ่มเดินเครื่องผลิต 225,000 บาร์เรลต่อวัน ที่โรงกลั่นอาเธอร์ในรัฐเทกซัสแล้ว



          เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 9 ถือเป็นสัปดาห์ที่น้ำมันดิบเบรนต์ปรับขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ส่วนราคาน้ำมันปิดตลาดเมื่อคืนนี้



-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.17 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 39.43 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล



-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 41.72 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล 



นักวิเคราะห์ มองบทบาท ‘ผู้นำคิม’ รู้สึกกดดัน หลังหลั่งน้ำตาขอโทษประชาชน



          นักวิเคราะห์ แสดงความเห็นหลังจากที่นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ถอดแว่นเช็ดน้ำตาและขอโทษชาวเกาหลีเหนือในพิธีสวนสนามเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี การก่อตั้งพรรคแรงงานเกาหลีเหนือว่ารู้สึกอับอายที่ไม่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้นกว่าเดิมได้ว่า สุนทรพจน์ดังกล่าวแสดงถึงความกดดันเพิ่มขึ้นต่อระบอบการปกครองของนายคิมในสถานการณ์ที่มีความยากลำบากจากสถานการณ์โควิด -19 การคว่ำบาตรจากนานาชาติ และ ภัยธรรมชาติ



          นายฮง มิน ผู้อำนวยการฝ่ายเกาหลีเหนือ ที่สถาบันเกาหลีเพื่อการรวมชาติ เปิดเผยกับโคเรียไทม์ว่า ภายใต้สารของนายคิม เราสัมผัสได้ว่านายคิม รู้สึกกดดันอย่างมากในการเป็นผู้นำ ด้วยคำพูดต่างๆ ในสุนทรพจน์ เช่น "ความท้าทายยิ่งใหญ่" "ความเจ็บปวดนับไม่ถ้วน" และ "ภัยพิบัติเป็นประวัติการณ์ "แสดงว่านายคิมมีช่วงเวลายากลำบากในการปกครอง และรู้สึกกดดันจากความกังวลว่าประชาชนอาจไม่พอใจหรือไม่สบายใจจากความยากลำบากเช่นนี้ เป็นเหตุผลที่นายคิมให้ความสำคัญกับประชาชนอย่างมากในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้



          อย่างไรก็ตาม นายคิม ชง-อิน ผู้นำฝ่ายค้านหลักในเกาหลีใต้ ดูถูกนายคิมที่หลั่ง น้ำตาจระเข้ ภายหลังที่กองกำลังเกาหลีเหนือยิงเจ้าหน้าที่ประมงเกาหลีใต้เสียชีวิตเมื่อเดือนก่อน



EU ส่งจนท.สังเกตการณ์เลือกตั้งเมียนมาแค่ 4 คน กังวลโควิด-19 



          สหภาพยุโรป(EU) ตัดสินใจส่งเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์การเลือกตั้งในเมียนมาเพียง 4 คนจากเดิมที่ตั้งใจจะส่งครบทั้งทีม เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความเคลื่อนไหวจากยุโรปเป็นไปตามมติของผู้สังเกตการณ์กลุ่มอื่นๆ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งของเมียนมายืนยันว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะยังคงมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. แม้มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ทั้ง 4 คนเดินทางถึงเมียนมาแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. จะสังเกตและประเมินสถานการณ์จนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้นทั้งกระบวนการรวมถึงขั้นการยื่นอุทธรณ์ผลเลือกตั้ง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์จะออกรายงานวิเคราะห์และให้คำแนะนำเพื่อไปปรับใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย



สื่อสหรัฐฯ อ้าง ‘ปธน.ทรัมป์’ คิดที่จะโชว์ตัวแบบซูเปอร์แมน เพื่อแสดงความแข็งแกร่ง



          นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีแนวคิดจะสร้างเซอร์ไพรซ์ให้ผู้คนที่เฝ้าจับตารอดูเขาออกจากศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเข้ารับการรักษาโควิด-19 เป็นเวลา 72 ชั่วโมง ด้วยการกระชากเสื้อเชิ้ตตัวนอกออก ให้เห็นเสื้อยืดซูเปอร์แมนอยู่ข้างใน เพื่อแสดงว่าเขายังแข็งแกร่ง  รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ โทรศัพท์หลายครั้งตอนที่อยู่ที่ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด พร้อมเสนอแนวคิดว่า ตอนแรกเขาจะปรากฎตัวด้วยท่าทางอิดโรยก่อน จากนั้นจะชากกระดุมเสื้อเชิ้ตออก เผยให้เห็นเสื้อยืดมีสัญลักษณ์"ซูเปอร์แมน"อยู่ข้างใน ที่เขาบอกว่า เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ทำอย่างที่คิด



          คณะแพทย์ บอกว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้รับการรักษาด้วยสเตียรอยด์ ยาต้านไวรัส และแอนตี้ บอดี้ ชนิดโมโนโคลนผสม 2 ขนาน ของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ รีเจเนรอน ที่อยู่ระหว่างการทดสอบ



ชีวิตวิถีใหม่ของชาวจีน ทำให้แต่ละวันมีขยะพลาสติก 150 ล้านชิ้น



          การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการบริโภคอาหารกลางวันของพนักงานออฟฟิศในจีน ปรับเปลี่ยนเป็น นิว นอร์มัล เต็มรูปแบบ ด้วยการหันไปใช้บริการสั่งอาหารจากร้านที่มีบริการจัดส่งหรือเดลิเวอรี ซึ่งลูกค้าบางคน สั่งอาหารสัปดาห์ละ 5 ครั้ง บางคนสั่งแค่มื้อค่ำ แต่ถ้าไปถามพนักงานจัดส่ง จะพบว่า แต่ละคนมีออเดอร์เฉลี่ยวันละ 40-50 ออเดอร์



          ธุรกิจจัดส่งอาหารเฟื่องฟูอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนโควิด-19ระบาด เมื่อปี 2562 แอปพลิเคชั่นสั่งอาหารต่างๆ ในจีน ได้รับออเดอร์ วันละเฉลี่ยกว่า 50 ล้านราย ขณะที่ ผลการศึกษา ชี้ว่า การสั่งอาหารแต่ละออเดอร์ ใช้กล่องหรือถุงพลาสติกอย่างน้อย 3 ชิ้น ทำให้ในแต่ละวันมีขยะพลาสติกอย่างน้อย 150 ล้านชิ้น ซึ่งไม่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ในหลายเมืองใหญ่เจอปัญหาการกำจัดขยะอย่างเหมาะสม นครใหญ่อย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ถึงกับต้องออกนโยบายแยกขยะ และแพล็ตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ หันมาใช้กล่องกระดาษในการจัดส่งสินค้ากันมากขึ้นแต่มาตรการกำจัดขยะได้สวนทางกับปริมาณการสั่งอาหารที่เพิ่มขึ้น และอุปสรรคที่สำคัญคือ ร้านอาหารต่างๆ พากันคำนวนต้นทุนเป็นหลัก และเลือกที่จะใช้พลาสติกเนื่องจากมีราคาถูกกว่าภาชนะที่ย่อยสลายทางชีวภาพ 2-3 เท่า



อินเดีย ยกเลิกการติดป้ายหน้าบ้านผู้ติดเชื้อโควิด-19



          เมืองเดลีของอินเดีย ประกาศยกเลิกติดป้ายเตือนหน้าบ้านที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เนื่องจากทำให้ชาวอินเดียไม่ยอมเปิดเผยอาการป่วย เจ้าหน้าที่ทางการเมืองเดลี กล่าวว่า ทางการใช้วิธีติดป้ายเตือนหน้าบ้านผู้ป่วยโรคโควิด-19 มาเป็นเวลากว่า 6 เดือน เพื่อสร้างความระมัดระวังในชุมชน ขณะนี้ชาวอินเดียรู้จักระวังตัวเป็นอย่างดีแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้วิธีดังกล่าวอีกต่อไป พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนออกมาตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา



         ขณะที่ รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเดลี กล่าวว่า การติดป้ายเตือนโรคโควิด-19 ทำให้เกิดการตีตราทางสังคม การยกเลิกวิธีดังกล่าวจะช่วยให้ชาวอินเดียออกมาตรวจหาเชื้อมากขึ้นโดยไม่ต้องรู้สึกวิตกกังวลเรื่องการถูกตีตรา อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 7,120,538 คน สูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯผู้เสียชีวิตสะสม109,150 ราย




 




 

ข่าวทั้งหมด

X