คมนาคม เร่งแก้ปัญหาจุดตัดรถไฟ ถึงมีไม้กั้น ยังเกิดอุบัติเหตุ

12 ตุลาคม 2563, 18:37น.


          หลังเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถบัสกฐินบริเวณจุดตัดใกล้สถานีคลองแขวงกลั่น จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 19 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม และโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังอุบัติเหตุทำให้เกิดการสูญเสีย เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมสั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.เร่งเยียวยาผู้ประสบเหตุเต็มที่ ขณะนี้มียอดเสียชีวิตรวม 19 ราย บาดเจ็บ 44 คน ส่วนการตรวจสอบเยียวยาตามกฎหมายและการประกันภัยนั้น พบว่า รถที่ประสบเหตุทำประกันภัยภาคบังคับกับบริษัท อาคเนย์ ประกันภัย ซึ่งผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยตามกรมธรรม์คนละ 500,000 บาท บาดเจ็บจะได้รับเงินชดเชยคนละ 80,000 บาท นอกจากนี้ รถคันดังกล่าวยังมีประกันภัยภาคสมัครใจประเภท 3 ซึ่งจะให้ความคุ้มครองผู้เสียชีวิตอีกคนละ 500,000 บาท รวมไม่เกิน 10 ล้านบาท



          ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาจุดตัดรถไฟกับถนนโดยเฉพาะจุดเกิดเหตุดังกล่าว ล่าสุดกระทรวงคมนาคมสั่งการให้ รฟท.ประสานขอรับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) วงเงิน 4-5 ล้านบาท เพื่อทำการก่อสร้างเครื่องกั้นในจุดเกิดอุบัติเหตุนี้ รวมทั้งเร่งซ่อมระบบสัญญาณไฟเตือนรถที่จะข้ามให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว โดยข้อมูลกรมการขนส่งทางรางเบื้องต้นมี 621 แห่ง ข้อมูลของ รฟท.และกรมการขนส่งทางรางยังระบุถึงข้อมูลจุดตัดรถไฟกับถนนที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน หรือ Black Spot ซึ่งมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งระหว่างปี 2558-2562 จำนวน 34 จุด และเมื่อรวมกับจุดตัดที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวานจะมี 35 จุด การแก้ไขปัญหาจุดตัดดังกล่าวกระทรวงคมนาคมขอให้มีการจัดสรรงบประมาณจาก กปถ.เช่นกันวงเงิน 29.5 ล้านบาท เพื่อศึกษาปัญหาทางกายภาพและแนวทางแก้ไขปัญหา เนื่องจากพบว่าทั้ง 35 แห่ง 9 แห่งเป็นจุดตัดที่มีเครื่องกั้นแล้ว แต่ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแม้บางจุดจะมีเครื่องกั้น แต่หากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยก็ยังจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้อยู่ดี



          ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกระบุถึงรถเกิดอุบัติเหตุจังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อวานนี้ รถคันดังกล่าวกรมฯ พบว่ามีการจดทะเบียนเป็นรถ 42 ที่นั่ง แต่มีการโดยสารถึง 62 คน แน่นอนว่าจะต้องมีผู้โดยสารยืนสุ่มเสี่ยงเกิดอันตรายมากขึ้นหากรถประสบอุบัติเหตุ รวมทั้งรถคันดังกล่าวขาดต่อทะเบียนภาษีประจำปีตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยกรมฯ ได้ดำเนินการสั่งปรับผู้ประกอบการรายนี้ในฐานความผิดดังกล่าว จำนวน 50,000 บาทไปแล้ว ไม่รวมฐานความผิดอื่น ๆ

ข่าวทั้งหมด

X