นายกสภาวิศวกร เสนอ ‘แก้มลิงยักษ์ใต้ดิน’ แก้น้ำท่วมกรุงเทพ นำร่องสวนเบญจกิติ

12 ตุลาคม 2563, 16:56น.


          แนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร และอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจร.) เปิดเผยว่า สาเหตุหลักที่ทำให้กรุงเทพฯ เกิดเหตุน้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจากกรุงเทพฯ มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ถนนต่ำกว่าระดับแหล่งน้ำ ดังนั้นเมื่อฝนตกลงมา น้ำจึงระบายไม่ได้ เพราะถนนหลักและท่อระบายน้ำอยู่สูงกว่าซอย สภาวิศวกร และ สจล. จึงมีแนวคิดผลักดันเทคโนโลยีวิศวกรรม “แก้มลิงยักษ์ใต้ดิน” ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการใช้วิธีเปิดหน้าดินเป็นช่องเล็กๆ แล้วใช้เครื่องมือเจาะคว้านดินด้านในสร้างเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ใต้ดิน และสร้างท่อระบายน้ำหลัก 4 ท่อ พร้อมเชื่อมกับท่อระบายน้ำอื่นๆ ของ กทม. เพื่อลำเลียงน้ำฝนบนพื้นถนน ไปกักเก็บไว้ใต้ดินเพื่อรอระบายไปยังแหล่งน้ำ



          โดยจากการศึกษาพบ โครงการแก้มลิงยักษ์ใต้ดิน สามารถดำเนินการได้โดยนำร่องในพื้นที่สวนเบญจกิติ ที่มีพื้นที่ 130 ไร่ มีขอบเขตการรองรับน้ำจากบริเวณใกล้เคียงครอบคลุมพื้นที่ 900,000 ตารางเมตร สามารถรองรับปริมาณน้ำได้กว่า 100,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสภาวิศวกร และ สจล. เตรียมนำเสนอแนวคิดการใช้บิ๊กเดต้าคำนวณพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมกรุงเทพฯ และแก้มลิงยักษ์ใต้ดิน ให้แก่ภาครัฐเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการหรือแก้ปัญหาของประเทศในอนาคตต่อไป



          ก่อนหน้านี้ สภาวิศวกร ได้ร่วมกับสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (SCiRA) สจล. ใช้บิ๊กเดต้าคำนวณพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม แบบแม่นยำสูง เพื่อเตรียมหาแนวทางรับมือที่ยั่งยืน โดยจากการวิเคราะห์ 70 จุดเสี่ยงภัยน้ำท่วมบริเวณถนนทั่ว กทม. พบมีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมสูงสุดกว่าร้อยละ35.52 ของพื้นที่ทั้งหมด 1,571.13 ตารางกิโลเมตร โดยเฉพาะเขตพื้นที่บางนา คลองเตย และรามคำแหง



          นอกจากนี้บิ๊กเดต้าดังกล่าว ยังวิเคราะห์พบพื้นที่ กทม. มี 56 จุดเสี่ยงน้ำท่วมทันที หากมีปริมาณน้ำฝนเกิน 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ที่ ถ.พระราม3 ช่วงตลาดฮ่องกงปีนัง-แยก ณ ระนอง ถ.งามวงศ์วาน ช่วงแยกเกษตร ถ.รัชดาภิเษก แยกพระราม9-แยกห้วยขวาง ถนนรามคำแหง ช่วง ม.รามคำแหง ถ.อโศกมนตรี และ ถ.พัฒนาการ



 

ข่าวทั้งหมด

X