นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลประมาณการอัตราการเติบโตภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2557 และแนวโน้มปี 2558 โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พบว่า ขยายตัวประมาณร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับปี 2556 โดยสาขาการผลิตที่เป็นแรงหนุนในภาคเกษตรขยายตัวได้ในปีนี้ คือ สาขาพืช สาขาปศุสัตว์ และสาขาป่าไม้ ส่วนที่หดตัวลงคือสาขาประมง และสาขาบริการทางการเกษตร
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ภาคการเกษตรขยายตัว คือ สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ต่าง ๆ ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ส่วนการผลิตสินค้าปศุสัตว์ ก็มีการวางแผนการผลิตที่ดี มีระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน และการเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลผลิตสินค้าปศุสัตว์ที่สำคัญเพิ่มขึ้น รวมทั้งการผลิตสินค้าเกษตรมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากมาตรการและนโยบายของภาครัฐ ทั้งการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภาคเกษตร การส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ รวมถึงการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์มีทิศทางเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นและค่าเงินบาทที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตามปัจจัยด้านลบที่ทำให้ภาคเกษตรหดตัว ได้แก่ ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสแรกของปี 2557 โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญ ทำให้การปลูกข้าวนาปรังได้รับผลกระทบอย่างมาก และในช่วงเดือนกันยายน 2557 ก็มีน้ำท่วม ทั้งยังมีปัญหาโรคตายด่วนในกุ้งทะเลเพาะเลี้ยง ที่มีความรุนแรงอย่างมากในปี 2556 และยังคงส่งผลต่อเนื่องมายังการผลิตกุ้งทะเลเพาะเลี้ยงในช่วงปี 2557 ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มั่นใจและทำการผลิตไม่เต็มที่
ทั้งนี้ คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรปี 2558 จะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2–3 สำหรับสาขาประมง คาดว่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ในปีนี้ หลังจากที่หดตัวต่อเนื่องมา 2 ปี
..