การผลัดเปลี่ยนกำลังของกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธุ์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด แถลงข่าวว่า ในวันนี้ (12 ต.ค.) เป็นการเดินทางกลับมาของพลทหารผลัดที่ 1 ชุดสุดท้าย ที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานดอนเมือง ด้วยเที่ยวบินพิเศษเช่าเหมาลำของสหประชาชาติจำนวน 77 นาย เป็นทหาร 76 นาย และตำรวจ 1 นาย โดยได้เข้ากักตัว 14 วัน ที่เซาท์ซูดาน ก่อนเดินทางกลับ
ด้านนพ.ชลทรัพย์ แชมาร์ หัวหน้าด่านควบคุมโรคสนามบินดอนเมือง กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการคัดกรองพลทหารและเจ้าหน้าที่ที่กลับมา 77 คน ไม่พบว่ามีผู้ใดมีอาการทางเดินหายใจ หรือมีอุณหภูมิเกิน 37.3 แต่มีโอกาสที่ทหารจะติดเชื้อ จึงได้ส่งตัวไปตรวจที่ชลบุรี เพื่อกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ และย้ำว่า ท่าอากาศยานดอนเมืองมีศูนย์อีโอดีที่มีมาตรฐาน หากพบผู้มีอุณหภูมิเกิน จะจัดที่นั่งแยกกับคนอื่นๆ เพื่อวัดไข้ซ้ำ ถ้ามีไข้เกิน จะทำการตรวจหาเชื้อ การคัดกรองที่สนามบิน 100 คน จะพบผู้ติดเชื้อ 1 คน ข้อดีของอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานดอนเมืองที่แยก ไม่ติดกัน ทำให้ป้องกันได้ง่าย และไม่แพร่ไปยังผู้โดยสารอื่นๆ
ส่วนกำลังพลที่กลับจากเซาท์ซูดาน ผลัดแรก 32 นาย ที่ติดเชื้อและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พล.ท.ชาญชัย ดิกขะปัญโญ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก กล่าวว่า ขณะนี้พักอยู่หอผู้ป่วยเฉพาะ 29 นาย เบื้องต้นไม่มีอาการ และ 3 นาย ผลการตรวจเชื้อเป็นลบ 2 ครั้ง ก็ได้ส่งไปกักตัวอีก 30 วัน ที่โรงพยาบาลค่ายภาณุรังสี จ.ราชบุรี อย่างไรก็ตาม ขอให้ความมั่นใจว่า กำลังพลที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่เซาท์ซูดาน จะได้รับการอบรมเรื่องโควิด-19 เมื่อไปถึงถ้ามีภาวะที่เป็นปัญหา สามารถคุยและปรึกษากับแพทย์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าได้ตลอดเวลา
สำหรับการส่งกำลังพลไปร่วมปฏิบัติการที่เซาท์ซูดาน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ย้ำว่า เป็นภารกิจสำคัญ เป็นพันธกิจที่ไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติ ในฐานะรัฐสมาชิกที่ส่งกำลังเข้าร่วมรวม 72 ประเทศ รวมกำลังกว่า 20,000 นาย และเป็นไปตามมติครม.เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ประกอบกับทหารไทยมีขีดความสามารถที่สหประชาชาติต้องการ