พายุหลิ่นฟา ถล่มภาคกลางเวียดนาม เตือนรับมือพายุอีกลูก กระทบพื้นที่ชายฝั่ง
ความเสียหายจากพายุหลิ่นฟา ที่พัดถล่มพื้นที่ภาคกลางของเวียดนาม ทำให้เกิดดินถล่มในจ.กว๋างนาม และจ.กว่างหงาย ต้นไม้หลายสิบต้นโค่นล้ม กระแสลมพัดกระหน่ำหลังคาบ้านปลิวเสียหายกว่า 20 หลัง และมีเรือประมงจม 1 ลำ
ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้ว พื้นที่ภาคกลางทั้งหมดและบางจังหวัดในเขตที่ราบสูงตอนกลางของประเทศ ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักมาก ในบางพื้นที่บ้านเรือนประชาชนจมน้ำลึกเกือบ 4 เมตร มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย สูญหายอีก 7 คน ประชาชนราว 20,000 คน ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
พายุหลิ่นฟา เป็นพายุลูกที่ 6 ของปีนี้ที่ก่อตัวในทะเลจีนใต้ ส่วนพายุลูกที่ 5 คือพายุโนอึล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย
ขณะที่ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์แห่งชาติเวียดนาม ประกาศเตือนพายุลูกใหม่ที่กำลังก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ คาดว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ศูนย์กลางของพายุจะอยู่ห่างจากหมู่เกาะพาราเซลทางตะวันออก-ตะวันออกเฉียงเหนือ ราว 450 กิโลเมตร ด้วยความเร็วลมสูงสุดที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ศูนย์อุตุนิยมวิทยา เตือนว่า เนื่องจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นร่วมกับร่องความกดอากาศต่ำและความหนาวเย็นเคลื่อนตัวมาจากทางเหนือทำให้พื้นที่ชายฝั่งเกือบทั้งหมดของเวียดนามจะมีฝนตกหนักและทะเลมีคลื่นลมแรง
เมื่อปี 2562 ภัยพิบัติทางธรรมชาติในเวียดนาม ส่วนใหญ่เป็นน้ำท่วมและดินถล่มจากอิทธิพลของพายุ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 132 ราย ได้รับบาดเจ็บ 207 คน
2 จังหวัดทางตต.ในกัมพูชา น้ำท่วมหนักเสียชีวิตแล้ว 11 ราย
คณะกรรมาธิการบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของกัมพูชา แถลงว่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ต้นเดือน เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย โดยจังหวัดพระตะบอง ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และจังหวัดโพธิสัตว์ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกตอนกลาง ได้รับผลกระทบมากที่สุด
ขณะที่ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เบื้องต้นมีรายงานประชาชนอย่างน้อย 14,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ด้านกระทรวงคมนาคมของกัมพูชาประกาศห้ามรถบรรทุก และยานพาหนะขนาดใหญ่เข้าสู่ทั้งสองจังหวัดที่กำลังประสบกับภัยพิบัติครั้งนี้ ยกเว้นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่
มาเลเซีย จับกุมเรือประมงจีน 6 ลำ รุกล้ำน่านน้ำ
ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน จากประเด็นจีนอ้างกรรมสิทธิเหนือน่านน้ำส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และเส้นทางผ่านสำคัญของเรือบรรทุกสินค้า สำนักงานตำรวจน้ำมาเลเซีย หรือ เอ็มเอ็มอีเอ (Malaysian Maritime Enforcement Agency) เปิดเผยว่า มาเลเซียจับเรือประมงและลูกเรือจีน ในทะเลนอกชายฝั่งรัฐยะโฮร์ ทางภาคใต้ นายโมฮัมหมัด ซุลปัดลิ นายาน ผู้บังคับการเขตเอ็มเอ็มอีเอ กล่าวว่า เรือทุกลำจดทะเบียนที่เมืองท่าฉินหวงเต่า มณฑลเหอเป่ย์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ลูกเรือที่ถูกจับกุมเป็นไต้ก๋ง 6 คน ลูกเรือ 54 คน เป็นชาวจีนทั้งหมด อายุระหว่าง 31–60 ปี เรือทั้ง 6 ลำที่ถูกจับ ไม่มีการบรรทุกสินค้า เชื่อว่า กำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่มอริเตเนีย ประเทศริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา แต่จำเป็นต้องแวะจอด เนื่องจากเกิดปัญหาบางอย่าง
ทางการมาเลเซีย บันทึกว่า ระหว่างปี 2559 – 2562 หน่วยเรือลาดตระเวนชายฝั่งและของกองทัพเรือจีน รุกล้ำน่านน้ำมาเลเซียรวม 89 ครั้ง
คุมโควิด-19 เมียนมา ให้ผู้สูงอายุเลือกตั้งล่วงหน้า ป้องกันติดเชื้อ
คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งสหภาพ (UEC) ของเมียนมา ประกาศให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าได้ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.ถึงวันที่ 5 พ.ย.ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนตำบล ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.
นายติน หม่อง เอ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งภูมิภาคย่างกุ้ง เปิดเผยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งสหภาพจะทำงานร่วมกันกับคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนตำบล จัดลงคะแนนเสียงล่วงหน้าให้ผู้สูงอายุที่พักอาศัยในเมืองที่อยู่ภายใต้คำสั่งอยู่บ้าน และในเมืองที่มีประชากรหนาแน่น รวมถึงผู้สูงอายุในเมืองอื่นๆ ที่ไม่สามารถเดินทางมาใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ และจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ผู้สูงอายุไม่ควรออกไปที่หน่วยเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อสูง เฉพาะในภูมิภาคย่างกุ้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีจำนวนมากกว่า 800,000 คน
ผู้เชี่ยวชาญ เตือนอินเดีย การ์ดตกมากขึ้น หวั่นเชื้อระบาดหนักช่วงเทศกาลทางศาสนา
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอินเดีย ที่พุ่งสูงกว่า 7,000,000 คน สถาบันจอห์น ฮอบกิ้น รายงานเมื่อเวลา 05.48 น.ว่าผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 7,053,806 คน เสียชีวิต 108,334 ราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนว่า จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อในวงกว้าง เนื่องจาก กำลังจะมีการจัดงานเทศกาลทางศาสนา ประชาชนจำนวนมากไปรวมตัวกันในศาสนสถานและย่านช้อปปิ้ง ผู้เชี่ยวชาญ กังวลว่า โรงพยาบาลจะรับภาระผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ไหว เนื่องจากทรัพยากรสาธารณสุขที่ขาดแคลนอยู่แล้วได้รับการจัดสรรอย่างไม่มีประสิทธิภาพทั่วประเทศ ประชาชนเกือบ 600 ล้านคนอาศัยอยู่ในชนบท
ดร.รันดีป กูเลเรีย ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของรัฐบาลอินเดีย กล่าวว่า หากประชาชนยังสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคม ต้นปีหน้าอินเดียอาจเข้าสู่ภาวะปกติใหม่ (new normal) ที่แม้โควิด-19 ยังไม่หมดไปแต่จะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้อย่างเหมาะสม ทำให้การเดินทางและกิจกรรมอื่นๆ สามารถทำได้ง่ายขึ้นและประชาชนปลอดภัยมากขึ้น
ด้าน นพ.ที เจค็อบ จอห์น ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส ตั้งข้อสังเกตว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากที่คนอินเดียไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือเว้นระยะห่างทางสังคม
อินเดียทำการตรวจหาผู้ติดเชื้อวันละกว่า 1,000,000 คน สูงกว่าค่าเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) การตรวจจำนวนมากเป็นการตรวจหาแอนติเจนหรือสารก่อภูมิต้านทานเพื่อค้นหาโปรตีนของไวรัส ซึ่งเป็นวิธีที่เร็วกว่าแต่แม่นยำน้อยกว่าการตรวจแบบอาร์ที-พีซีอาร์ ที่ยืนยันไวรัสโคโรนาจากรหัสพันธุกรรม
ขณะเดียวกัน สภาพเศรษฐกิจที่ติดลบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 2 ถึงร้อยละ 23.9 และคนว่างงานหลายล้านคน ทำให้รัฐบาลอินเดียต้องเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้เมื่อปลายเดือนมี.ค.และเมื่อเดือน พ.ค. รัฐบาล ประกาศมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 266 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ยังไม่สามารถกระตุ้นภาคการผลิตได้
CR:BBC