เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายประมาณ 40 คนบุกโจมตีสถานีตำรวจนอกกรุงปารีสด้วยพลุดอกไม้ไฟในวันนี้ (11 ต.ค.) ซึ่งต้องใช้เวลานาน 1 ชั่วโมงกว่าที่พลุดอกไม้ไฟเหล่านี้จะสงบลง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อยตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เจ้าหน้าที่ 2 นายกำลังพักสูบบุหรี่อยู่ที่ด้านนอกของสถานีตำรวจช็องปีนี ซูร์ มาร์น ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปารีสไปทางตะวันออกประมาณ 12 กม. แล้วมีกลุ่มบุคคลซึ่งถือแท่งเหล็กและไม้บุกเข้ามาทุบรถตำรวจและทำลายทรัพย์สินของสถานี จากนั้นก็จุดพลุและดอกไม้ไฟซึ่งมีทั้งที่โยนเข้าไปในสถานีตำรวจ และจุดขึ้นที่ด้านนอกของสถานี
แต่เหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
นายเจอรัลด์ ดาร์มานิน รัฐมนตรีกิจการภายในของฝรั่งเศส ระบุว่า ผู้ก่อเหตุคือกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่ต้องการข่มขู่เจ้าหน้าที่ ซึ่งนายโรลองซ์ จีนน์ นายกเทศมนตรีเมืองช็องปีนี ซูร์ มาร์น ยอมรับว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญของเมือง และเหตุที่เกิดขึ้นตอกย้ำถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อการบังคับใช้กฎหมายในเขตชานเมืองปารีสและเมืองใหญ่อื่น ๆ โดยในปีนี้มีการใช้พลุดอกไม้ไฟโจมตีสถานีตำรวจในฝรั่งเศสเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง เฉพาะที่สถานีตำรวจช็องปีนี ซูร์ มาร์น ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่พอใจมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมโควิด-19
โดยเมื่อวันพุธ (7 ต.ค.) ยังมีเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายถูกลอบทำร้ายและถูกยิงด้วยปืนของพวกเขาเองในย่านชานกรุงปารีส ซึ่งทำให้สหภาพตำรวจ ระบุว่า ผู้ก่อเหตุไม่มีความเคารพต่อการบังคับใช้กฎหมาย และน่าเสียดายที่รัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างความเคารพต่อกฎหมายให้เกิดขึ้น
....