ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น. วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2563

น้ำลำตะคอง สูงแตะตลิ่ง เร่งเปิดทางน้ำไหล ลดผลกระทบพื้นที่ลุ่ม

          ฝนที่ตกต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานนี้ยังไม่หยุด ทำให้ระดับน้ำในลำตะคอง จ.นครราชสีมา เอ่อสูงจนแตะตลิ่งแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นำเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว และเครื่องจักรกลหนัก รถขุดตักไฮดรอลิกแบบแขนตักยาว 1 คัน ทำการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำในพื้นที่บ้านโพนสูง หมู่ที่ 4 ต.หมื่นไวย เพื่อเปิดทางน้ำ เร่งการระบายน้ำลงสู่ลำบริบูรณ์ไปลงลำมูล บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำล้นตลิ่งไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำติดลำน้ำทั้ง 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านหมื่นไวย หมู่ 2 บ้านโพนสูง หมู่ 4 บ้านคลองบริบูรณ์ หมู่ 5 และบ้านหนองนาลุ่ม หมู่ 7 รวมกว่า 100 หลังคาเรือน

ฝนตกบนเขาใหญ่มากกว่าคาดการณ์ เตือนพท.ด้านล่าง เตรียมพร้อมรับมือ

          นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและตอนบ่ายนี้ประชุมติดตามสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง ทั้งเรื่องน้ำป่า เสาไฟฟ้าล้ม ดินสไลด์ ต้นไม้หักโค่น จากแบบจำลองของศูนย์เตือนภัยพิบัติ คาดว่า ฝนตกบนเขาใหญ่อาจจะมากกว่าที่พยากรณ์ จึงแจ้งเตือนไปยังนายอำเภอปากช่อง, นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปากช่อง และพื้นที่ตอนล่าง ทั้ง อ.สีคิ้ว, อ.สูงเนิน, อ.ขามทะเลสอ ให้เตรียมรับมือ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ย้ำเรื่องเตรียมการณ์เรื่องความปลอดภัยไว้ก่อน ขอให้ระมัดระวังเก็บสิ่งของมีค่าและพร้อมที่จะอพยพทันทีในกรณีที่มีความจำเป็นและจัดเตรียมพื้นที่ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

เส้นทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่งปากช่อง มีดินสไลด์-ต้นไม้ล้ม

          อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แจ้งนักท่องเที่ยวที่ได้จองบ้านพักบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไว้ เนื่องจากช่วงเวลานี้เกิดดินสไลด์และต้นไม้ล้มตามเส้นทางด่านฝั่งปากช่อง ทำให้ไม่สามารถเข้าพักได้ตามกำหนดที่ได้จองไว้ และบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไฟฟ้าดับ สัญญาณโทรศัพท์ขาดหาย จึงไม่สะดวกต่อนักท่องเที่ยว ดังนั้น หากนักท่องเที่ยวท่านใดมีความประสงค์เลื่อนวัน/ขอคืนเงิน ให้ติดต่อไปยังฝ่ายบ้านพักฯ ส่วนจัดการท่องเที่ยวและนันทนาการ สำนักอุทยานแห่งชาติ ภายในวันนี้ 9 ต.ค.2563 ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 025620760 และ 025610777 ต่อ 1719

CR:อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

กลางเดือนนี้เริ่มเข้าหน้าหนาว หลายจังหวัดตอนบน สัมผัสความเย็นแล้ว

          น.ส.กรรวี สิทธิชีวภาค รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยถึงสาเหตุที่เริ่มสัมผัสลมเย็นในช่วงนี้แล้วว่า เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณตอนบนของประเทศ โดยอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ลักษณะอากาศจึงแปรปรวนหรือผิดปกติเล็กน้อย แต่เป็นสัญญาณว่าจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวช่วงกลางเดือนนี้ หรืออาจจะเข้าสู่ฤดูหนาวก่อนหรือหลัง 1 สัปดาห์ ส่วนจะหนาวมากหรือน้อยต้องดูมวลอากาศเย็น และข้อมูลในระยะสั้นประกอบ 

          หลายจังหวัดทางภาคเหนือตอนบน เริ่มสัมผัสอากาศหนาวแล้ว โดยอุณหภูมิพื้นราบเฉลี่ย 21-24 องศาเซลเซียส ต่ำสุดที่ จ.เชียงราย 21 องศาเซลเซียส หลังจากเริ่มมีมวลอากาศเย็นปกคลุมช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู ส่วนตามดอยต่างๆ อุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส เช่น ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิลดลงเหลือ 11 องศาเซลเซียส มีหมอกปกคลุมทั่วบริเวณ นักท่องเที่ยวเริ่มเข้าสัมผัสอากาศเย็นแล้ว

เชียงใหม่ เตรียมพร้อมมาตรการรับนนท.แบบSTV

           หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แถลงเศรษฐกิจ 3 ไตรมาสปี 2563 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2564 หดตัวมาก สาขาท่องเที่ยวจึงเป็นสาขาที่ฟื้นตัวช้าที่สุด ทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหายไปจากระบบไม่น้อยกว่า 100,000 ล้านบาท เตรียมรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist VISA: STV) แบบจำกัด หากทำได้จะเป็นพื้นที่ต้นแบบกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้

สหรัฐฯ ระงับผลิตน้ำมันกว่า 90% ในอ่าวเม็กซิโก หลังเฮอร์ริเคนเดลต้าพัดถล่ม

          พายุเฮอร์ริเคน เดลต้า พัดถล่มพื้นที่ในอ่าวเม็กซิโกเป็นพื้นที่กว้าง ส่งผลทำให้บริษัทพลังงานที่ดำเนินงานในอ่าวเม็กซิโกต้องระงับการผลิตน้ำมันมากกว่าร้อยละ 90 ในวันพฤหัสบดี และต้องมีการอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะ รวมทั้งเริ่มแผนกู้สถานการณ์ที่โรงงานแปรรูปน้ำมันบริเวณชายฝั่ง สำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (Bureau of Safety and Environmental Enforcement - BSEE) ระบุว่า อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนเดลต้า ส่งผลทำให้บริษัทพลังงานที่ดำเนินการในอ่าวเม็กซิโกระงับการผลิตน้ำมันดิบราวร้อยละ 91.53 และระงับการผลิตก๊าซธรรมชาติร้อยละ 61.82

         รายงานพยากรณ์อากาศ ระบุว่า พายุเฮอร์ริเคนเดลต้า อ่อนกำลังลงสู่ระดับ 3 ขณะที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐลุยเซียนา ด้วยความเร็วลมสูงสุด 115 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเชื่อว่าจะทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง (Storm Surge) สูงถึง 11 ฟุต (3.4 เมตร) เมื่อพายุดังกล่าวพัดเข้าสู่รัฐลุยเซียนาในช่วงเย็นวันนี้ 

สดร.ชี้แจงวัตถุปริศนาเหนือฟ้าเชียงใหม่ ไม่ใช่จานบินแต่เป็นโคมลอย

          สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. เผยผ่านเฟซบุ๊ก ตามที่มีคลิปวิดีโอเผยแพร่เกี่ยวกับวัตถุปริศนาลอยอยู่บนฟ้าเมืองเชียงใหม่ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 ต.ค. จากภาพสังเกตได้ว่าวัตถุดังกล่าวไม่ได้ถูกเมฆบัง และยังมีสีดำสนิท ไม่ได้มีสีออกไปทางสีฟ้าตามสีของท้องฟ้า ซึ่งจะพบได้ในวัตถุที่ลอยอยู่ไกลออกไปบนท้องฟ้า จึงสามารถบอกได้ว่าวัตถุดังกล่าวนั้นลอยอยู่ค่อนข้างต่ำ เหนือจากพื้นดินขึ้นไปไม่ไกลมากนัก ชี้ว่าวัตถุนี้มีอัตราการเคลื่อนที่ค่อนข้างช้า สอดคล้องกับความสูงและอัตราการเคลื่อนที่ของโคมลอยที่มีการปล่อยตามประเพณีทั่วไปในจังหวัดเชียงใหม่

          ดังนั้น คำอธิบายที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในปัจจุบัน จึงน่าจะเป็นภาพของวัตถุจำพวกโคม ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญว่ารูปร่างที่ปรากฏจากมุมมองของผู้ถ่ายมีความคล้ายคลึงกับวัตถุที่เราคุ้นเคยกันว่าเป็น “จานบิน” จึงทำให้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษอย่างไรก็ตาม จากหลักฐานที่มีอยู่ปัจจุบัน คาดว่าข่าวเรื่องของวัตถุปริศนาเหนือฟ้าเชียงใหม่นี้ น่าจะไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าข่าวโคมลอย