ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2563

08 ตุลาคม 2563, 19:19น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2563   



ตำรวจ สภ.คอหงส์ สงขลา ออกหมายจับ อดีตเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลา นำเอกสารเท็จ เบิกนอแรดขาว



          กรณีนอแรดขาว พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผกก.สภ.คอหงส์ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับ นายโกสินทร์ รัตนวิบูลย์ อดีตเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลา 1 ใน 2 คนที่แอบนำเอกสารเท็จไปเบิกนอแรดขาว 2 นอที่ถูกเก็บไว้ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์แล้ว ในข้อหาลักทรัพย์ ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ มีโทษจำคุก 1 ปีถึง 5 ปี  สำหรับคณะวิทยาศาสตร์ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ เพราะมีข้อมูลชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่คนนี้แอบมาเบิกนอแรดคืนออกไปเอง ส่วนการสืบสวนผู้ผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆว่าเกี่ยวกับขบวนการค้าสัตว์ป่าหรือไม่ ตำรวจจะเร่งสอบทั้งหมด



          สำหรับการขโมยนอแรด ของสวนสัตว์สงขลาเนื่องจากแรดขาว 1 ตัวตายลงในช่วงปี 2555 สวนสัตว์สงขลา ได้มีการตัดนอแรดทั้ง 2 นอ คือนอแหลม 1 นอ กับนอทู่ที่อยู่ภายในต้องผ่าออกมา และนำมาเก็บไว้ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่



          จากข้อมูลของสวนสัตว์สงขลา พบว่านอแรดถูกเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลา นำเอกสารมาเบิกออกไป ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.2556 แต่ปรากฏว่า เมื่อมีการตรวจสอบพบว่า มีการทำเอกสารเท็จเบิกนอแรดไปเพียงแค่ 1 นอเท่านั้น จากนั้นเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2561 สวนสัตว์สงขลา แจ้งความที่สภ.เมืองสงขลา และทางสภ.เมืองสงขลาได้โอนสำนวนมายังสภ.คอหงส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นเรื่องที่นอแรดหายไป



          สวนสัตว์สงขลา ได้สอบสวนติดตามนอแรดที่หายไปปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2 คนคือคนที่ไปเบิกนอแรด จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่ง 1 คนที่ขโมยนอแรดถูกไล่ออกเมื่อ 1 พ.ย.2561 และอีก 1 คนเสียชีวิต ขณะนี้มีการยืนยันว่าสวนสัตว์สงขลา ติดตามนอแรดคืนมาเพียงอันเดียว เป็นนอทู่ ที่ส่งตรวจที่ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าและพบว่ามีร่องรอยขูดเนื้อจนเว้าแหว่งออกไป ส่วนนอแหลมหายไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งตำรวจระบุว่ามีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านบาท 



เร่งสอบตร.ถูกอมเบี้ยเลี้ยงโควิด-19



          การตรวจสอบข้อเท็จจริง ตำรวจถูกอมเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 หลังมีกลุ่มตำรวจบางส่วนเผยแพร่ข้อมูลเรียกร้องความเป็นธรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในหลายพื้นที่กองบัญชาการทั่วประเทศ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้กองบัญชาการแต่ละภาคเร่งทำรายงานข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณา รวมถึงมีการตั้งชุดจเรตำรวจ ตรวจสอบเรื่องนี้แบบคู่ขนาน เพื่อให้ได้ข้อสรุปภายใน 10 วัน นับตั้งแต่มีการออกคำสั่งเมื่อวันที่ 6 ต.ค. เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การกระทำความผิดเป็นขบวนการ แต่เป็นความผิดรายบุคคล หากพบว่าใครเข้าข่ายการกระทำความผิดจะสรุปสำนวนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ชี้มูลความผิดตามมาตรา 157 ต่อไป



          ส่วนกรณีที่มีตำรวจชั้นผู้น้อยใน สภ.เมืองลำปาง ให้ข้อมูลว่าเริ่มมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ โดยการขอให้ตำรวจชั้นผู้น้อยถอนเงินสดจากธนาคารมาคืนให้กับตำรวจ โดยจะมีการทำเอกสารในลักษณะชดใช้เงินที่มีการกู้ยืม จากโรงพักเรื่องนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากเรื่องนี้เป็นข่าวขึ้นมา อาจมีความพยายามในการตกแต่งบัญชี หรือใช้วิธีการปิดอำพรางการกระทำ เพื่อหลบเลี่ยง การตรวจสอบ ซึ่งส่วนนี้มั่นใจว่าน่าจะมีพยานหลักฐานเพียงพอเอาผิดได้ 



         สำหรับการแชร์พยานเอกสารหลักฐานทางการเงินหรือการร้องเรียนทางโซเชียลมีเดีย ก็จะมีฝ่ายตรวจสอบรวบรวมข้อมูลดังกล่าวมาให้จเรตำรวจพิจารณา พร้อมกันนี้ยังพร้อมเปิดรับเรื่องราวร้องทุกข์ทางช่องทางต่างๆ ด้วย



อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยคนเดินทางออกจากไทยไปญี่ปุ่น มีผลตรวจน้ำลายติดเชื้อโควิด-19 ตรวจซ้ำRT-PCR ไม่พบเชื้อ รอผลอีก 4



          หลังมีรายงานพบผู้เดินทางออกจากประเทศไทยไปประเทศญี่ปุ่นติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการประสานงานและตรวจสอบรายละเอียดเบื้องต้น พบว่าตั้งแต่ 1 ส.ค. ถึง 8 ต.ค. 63 มีผู้เดินทางไปจากประเทศไทย ตรวจน้ำลายพบผลบวก 15 ราย โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้



          กลุ่มที่ 1 ตรวจพบวันที่ 1 ส.ค.–21 ก.ย. 63 จำนวน 8 ราย ดังนี้



 รายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 20 ปี,



รายที่ 2 เป็นชายชาวญี่ปุ่น อายุ 47 ปี,



 รายที่ 3 เป็นชายชาวญี่ปุ่น อายุ 64 ปี,



รายที่ 4 เป็นชายไทย อายุ 21 ปี,



รายที่ 5 เป็นชายไทย อายุ 44 ปี,



 รายที่ 6 เป็นชายไทย อายุ 47 ปี,



รายที่ 7 เป็นหญิงไทย อายุ 54 ปี



และรายที่ 8 เป็นชายไทย อายุ 40 ปี โดยทางโรงพยาบาลในญี่ปุ่นได้ทำการตรวจหาเชื้อซ้ำด้วยวิธี RT-PCR เพื่อหาสารพันธุกรรมของไวรัส SARS-COV-2 พบว่า ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของทั้ง 8 รายดังกล่าว ให้ผลเป็นลบ ไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด สำหรับการสอบสวนโรคในประเทศไทย จากการตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของทั้ง 8 ราย รวม 49 คน ผลการตรวจเป็นลบทั้งหมด ไม่พบเชื้อโควิด-19 เช่นกัน



          ส่วนกลุ่มที่ 2 ตรวจพบวันที่ 30 ก.ย.-8 ต.ค. 63 เพิ่มอีก 7 ราย ดังนี้



รายที่ 9 เป็นเด็กหญิงชาวญี่ปุ่น อายุ 2 ปี 9 เดือน โดยผู้ป่วยรายดังกล่าว เดินทางออกจากประเทศไทยพร้อมมารดาและพี่ชาย ถึงประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 63 เก็บตัวอย่างน้ำลายส่งตรวจ ผลเป็นบวก และถูกส่งเข้าสถานที่กักตัวของรัฐ ส่วนมารดาและพี่ชายผลตรวจน้ำลาย ให้ผลเป็นลบ



รายที่ 10 เป็นชายไทย อายุ 31 ปี ประวัติเบื้องต้นพบว่าก่อนเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ได้ไปตรวจหาการติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่รพ.รามาธิบดี ซึ่งผลเป็นลบ และเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 63 เก็บตัวอย่างน้ำลายส่งตรวจ ผลเป็นบวก และถูกส่งเข้าสถานที่กักตัวของรัฐ



รายที่ 11 เป็นหญิงไทย อายุ 20 ปี เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 63 เก็บตัวอย่างน้ำลายส่งตรวจ ผลเป็นบวก และถูกส่งเข้าสถานที่กักตัวของรัฐ



รายที่ 12 เป็นชายชาวญี่ปุ่น อายุ 56 ปี ประวัติเบื้องต้นเคยถูกคุมขังที่ห้องกักสวนพลูและห้องกักบางเขนในช่วงสองสัปดาห์ก่อนเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น



          โดยทั้ง 4 รายดังกล่าวอยู่ระหว่างรอเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อซ้ำด้วยวิธี RT-PCR ในโรงพยาบาลของประเทศญี่ปุ่น ต่อไป



          สำหรับการสอบสวนโรคในประเทศไทย หลังจากได้รับรายงานดังกล่าวแล้ว กรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการสอบสวนโรค ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมทุกรายแล้ว โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 145 ราย อยู่ในระหว่างการเก็บตัวอย่างและรอผลการตรวจ ส่วนรายที่ 13 เป็นชายชาวญี่ปุ่น อายุ 60 ปี ได้รับการตรวจ RT-PCR ที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ผลไม่พบเชื้อ สำหรับรายที่ 14 และรายที่ 15 เป็นหญิงไทย อายุ 36 ปี และหญิงอายุ 63 ปีทั้งสอง อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและประสานงานเพื่อตรวจสอบรายละเอียด



มท.1 เร่งทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ ก่อนเปิดรับนักท่องเที่ยวรูปแบบ STV



          ความพร้อมของ 5 จังหวัดนำร่องที่จะรองรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA หรือ STV พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ยังต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนออกมาก่อน แต่ยืนยันว่าในส่วนของจังหวัดได้เตรียมการไว้แล้ว และจะต้องไม่มีปัญหาเหมือนที่ เคยเกิดขึ้นกับจังหวัดภูเก็ต  โดยพื้นที่ที่จะรับนักท่องเที่ยวนั้น ต้องมีความพร้อมมีมาตรการที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดการต่อต้าน การเปิดรับนักท่องเที่ยวรูปแบบ STV เป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวล เพราะทุกคนต้องเข้ากักตัวเบื้องต้น 14 วันก่อน แต่ทั้งนี้จะต้องสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่เป็นอย่างมากว่ามีมาตรการควบคุมโรคอย่างไร ส่วนที่มีข้อเสนอลดวันกักตัวนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถือเป็นแนวคิด แต่ยังไม่ได้ข้อยุติในการดำเนินการ



ลิเดียตรวจปอดซ้ำอีกครั้ง หลังหายป่วยโควิด-19 พบยังไม่หายดีทำงาน 60%



          หลัง ลิเดีย-แมทธิว ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนมีนาคม และผ่านกระบวนการรักษาจนออกจากโรงพยาบาลได้ในวันที่ 18 เมษายน ล่าสุด ลิเดียและแมทธิว ได้นำครอบครัว พร้อมกับลูกๆ น้องดีแลน-น้องเดมี่ เพื่อตรวจร่างกายและความเสียหายของปอดอีกครั้ง โดยลิเดียได้เผยคลิปขณะเข้ารับการตรวจ และผลสรุปออกมาว่า ถุงลมยังเป็นแผลที่ยังไม่หายดี ส่วนแมทธิวนั้นหายดีแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อความที่ลิเดียโพสต์ไว้ว่า  "เพิ่งได้มาตรวจปอดอย่างละเอียด เพื่อเช็คความเสียหายของปอดจากการติดเชื้อ COVID-19 สรุปว่าถุงลมยังเป็นแผลที่ยังไม่หายดี ทำให้การแลกเปลี่ยน oxygen กับ carbon dioxide ของปอดทำงานอยู่แค่ 60% ต้องคอยตรวจต่อไปว่าจะหายกลับมา 100% ไหม ก็ถึงว่าทำไมเวลาวิ่งออกกำลังกายแค่ jogging ก็เหนื่อยมาก หัวใจเต้นเฉลี่ยที่ 180 bpm ตลอด! ส่วนคุณสามีหายแล้ว 100%!



หุ้นไทยเพิ่มขึ้น 11.12 จุด หลังทรัมป์กลับลำหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ช้อปดีมีคืน



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,274.83 จุด เพิ่มขึ้น 11.12 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,012.52 ล้านบาท หุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯหันกลับมาให้การสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ”ช้อปดีมีคืน”ที่ให้วงเงินลดหย่อนภาษีถึง 30,000 บาท/คน แต่ยังต้องติดตามปัจจัยการเมืองต่อไป นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 628.95 ล้านบาท



          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐฯ นิกเกอิ ปิดที่ระดับ 23,647.07 จุด เพิ่มขึ้น 224.25 จุด สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวลดลง สวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปิดบวกรับความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ฮั่งเส็ง ปิดบวก 4 วันทำการติดต่อกัน ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดวันนี้ที่ 24,193.35 จุด ลดลง 49.51 จุด



ผู้ป่วยโควิด-19 ขอทดลองคลินิก ยารักษาชนิดเดียวประธานาธิบดีสหรัฐฯ



          บรรดาผู้ป่วยได้ขอเข้าร่วมการทดลองทางคลินิกสำหรับการใช้ยารักษาโรคโควิด-19 ที่สกัดจากแอนติบอดีของบริษัท Regeneron Pharmaceuticals Inc. ซึ่งใช้ในการรักษาอาการป่วยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจาก ปธน.ทรัมป์ได้ออกจากโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด และกลับเข้าทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ต.ค.หลังพบมีอาการติดเชื้อที่ปอดจนระดับออกซิเจนในเลือดลดต่ำลงเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ต.ค. แพทย์ประจำตัวของปธน.ทรัมป์ เปิดเผยว่า ผลการตรวจเลือดปธน.ทรัมป์ พบแอนติบอดีมีการต่อสู้กับเชื้อโรค ซึ่งโฆษกของ Regeneron ให้เหตุผลว่า อาจเป็นผลมาจากการรักษาด้วยยาของบริษัท



          ด้านผู้นำสหรัฐฯให้สัญญาว่า จะให้ชาวอเมริกันได้รับยาดังกล่าวฟรี พร้อมทั้งบรรยายถึงสรรพคุณของยานี้ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ระบุว่า ก่อนที่จะนำยาดังกล่าวไปใช้ในวงกว้างได้นั้น จะต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประเมินประสิทธิภาพในการรักษา



ญี่ปุ่นเริ่มเปิดจองตรวจPCRออนไลน์ สำหรับนักธุรกิจไปต่างประเทศ



          สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2563 เวลา 13.00 น. รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มบริการรับจองการตรวจ PCR ทาง online สำหรับนักธุรกิจที่เดินทางไปต่างประเทศ ผ่านศูนย์ TeCOT (New Coronavirus Testing Center for Overseas Travelers) สถาบันที่ลงทะเบียนภายใต้ศูนย์ TeCOT มีจำนวนรวม 305 แห่ง มีเริ่มการตรวจในช่วงวันทำการรวม 8,000 คนต่อวัน



สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศล่าสุด 87,145 คน (เพิ่มขึ้น 509 คน)



- จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวันมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงโตเกียว 142 คน จังหวัดคานากาวะ 54 คน จังหวัดโอซากา 51 คน จังหวัดไซตามะ 39 คน จังหวัดฮอกไกโด 38 คน



- ผู้เสียชีวิตสะสม 1,616 ราย (เพิ่มขึ้น 5 ราย)



- ผู้ติดเชื้ออาการรุนแรง 141 คน



- ผู้ที่รักษาหายสะสม 79,676 คน (เพิ่มขึ้น 605 คน)



อิตาลี ย้ำ ปชช.ต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ หลังผู้ติดเชื้อโควิด-19กลับมาสูงขึ้น



          นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ของอิตาลี เปิดเผยว่ารัฐบาลประกาศใช้กฎระเบียบซึ่งกำหนดให้เรื่องการสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะทั่วประเทศ  ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในร้านค้า, สำนักงาน, ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ,ในบาร์หรือร้านอาหาร เว้นแต่อยู่ห่างจากคนอื่นๆเป็นเวลานานๆ แม้ว่าตัวเลขผู้ติดโรคโควิด-19 ในอิตาลีในขณะนี้จะต่ำกว่าหลายประเทศในยุโรป



          อิตาลี เป็นประเทศที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นที่สุด หลังเป็นประเทศแรกๆในทวีปยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อต้นปีนี้  และแม้จะประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีกว่าหลายประเทศในยุโรปในช่วง 2-3 เดือนนี้  แต่ในรอบ 24 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอิตาลีพบผู้ป่วยใหม่กว่า 3,000 คน นับเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน ทั้งนี้ อิตาลีมีผู้ป่วยสะสม 333,940 คน เสียชีวิต 36,061 ราย

ข่าวทั้งหมด

X