อธิบดีกรมการแพทย์ ย้ำไทยจำเป็นต้องเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19ระบาด

08 ตุลาคม 2563, 16:15น.


          ความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะทำให้เกิดการระบาดของโควิด - 19 ระลอกใหม่ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะคงตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศไว้ที่ศูนย์รายเอาไว้ตลอดไป ไทยจำเป็นต้องมีการเปิดประเทศ เข้าใจว่าคงมีความเห็นที่แตกต่าง แต่ทุกคนถ้าเอาผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งคือประเทศเดินหน้าไปได้ คนในสังคมอยู่ได้ มีงานทำ ไม่ใช่ว่าไม่มีงานทำ ซึ่งอาจจะทำให้เราเจอเกิดการติดเชื้อบ้างเล็กๆ น้อยๆ หากทุกคนร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันป้องกันประเทศจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างสมดุลทั้งสุขภาพ และเศรษฐกิจ



          ขณะนี้ก็มีการเตรียมความพร้อมมีการเพิ่มทีมสอบสวนเพิ่มขึ้น 3 เท่า เรื่องยา เวชภัณฑ์ต่างๆ และอุปกรณ์ป้องกันตัว ทางองค์การเภสัชกรรมและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ส่วนเรื่องของเตียงทั่วประเทศมีมากกว่า 20,000 เตียง คนไข้ที่มีอาการหนักที่อยู่ในห้องไอซียู โดยตัวเลขจากการระบาดรอบแรกคนไข้นอนไอซียู พบนอนเฉลี่ยประมาณ 17 วัน ดังนั้น การเตรียมพร้อมครั้งนี้ ในกทม. สามารถรองรับได้ 230-400 คนต่อวัน ขณะที่ทั่วประเทศสามารถรองรับได้ 1,000-1,740 คนต่อวัน



         ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวว่า ในส่วนของ อภ.มีการเตรียมความพร้อมต่างๆแล้ว ทั้งหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 และชุด PPE เพราะจากประสบการณ์ช่วงแรก ทำให้มีปัญหาขาดแคลน แต่ปัจจุบันสามารถผลิตได้ภายในประเทศทั้งหมด โดยเฉพาะชุด PPE



          นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัจจุบันกรมควบคุมโรคมีทีมสอบสวนโรคเร็ว 1,000 ทีม เตรียมเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เป้าหมายหากพบการติดเชื้อต้องควบคุมได้อย่างรวดเร็วภายใน 3-4 สัปดาห์ ลดอัตราป่วยตายต่ำกว่าร้อยละ1.4 



          ส่วนกลุ่มเป้าหมายการเฝ้าระวังและตรวจทางห้องปฏิบัติการโควิด-19 ใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่



1. กลุ่มที่มีอาการเข้าเกณฑ์ ตรวจเชื้อทางในห้องแล็บ ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ และอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในทุกโรงพยาบาล



2.กลุ่มเป้าหมายเฉพาะหรือพื้นที่เฉพาะ เช่นผู้ต้องขังแรกรับ แรงงานต่างด้าวพื้นที่ชายแดน และ



3.กลุ่มอื่นๆตามสถานการณ์ เช่น นักกีฬาฟุตบอลไทยลีก



          นอกจากนี้ ต้องมีการตรวจค้นหาในการสอบสวนทางระบาดวิทยา กรณีพบผู้ป่วยยืนยัน ดังนี้ การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก และการค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน กรณีพบผู้ป่วยต่อเนื่องเกิน 28 วัน



          นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. กล่าวว่า ข้อมูล ณ วันที่ 7 ต.ค.2563 มีการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ 628,304 เม็ด ยาเรมเดซิเวียร์ 795 ขวด สำหรับผู้ป่วย 126 คน หน้ากาก N95 คงเหลือ 2,257,471 ชิ้น ชุด PPE คงเหลือ 1,959,980 ชิ้น มี 40 โรงงานกำลังการผลิต 60,000 ชุดต่อวัน และหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ คงเหลือ 50,922,050 ชิ้น

ข่าวทั้งหมด

X