ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2563

08 ตุลาคม 2563, 09:18น.


มาตรการ 'ช้อปดีมีคืน' ลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาท กระตุ้นศก.ไตรมาส 4



          การกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีผ่านมาตรการต่างๆ เตรียมนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาวันที่ 11 ต.ค. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ชี้แจงว่า มาตรการที่ผ่านที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ.มีหลายมาตรการ



-มาตรการช้อปดีมีคืน เป็นมาตรการให้คนไทยจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการกับผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้านหนังสือ สินค้าโอทอป ไม่รวมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ยาสูบ สลากกินแบ่งรัฐบาล น้ำมัน ที่พัก และตั๋วเครื่องบิน สามารถนำค่าใช้จ่ายไม่เกินคนละ 30,000 บาท มาลดหย่อนภาษีได้ ในปีภาษี 2563 เดือนมี.ค. 2564 มาตรการนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.- 31 ธ.ค.2563 ผู้เข้าร่วมมาตรการต้องไม่ได้ใช้สิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือโครงการคนละครึ่งด้วย คาดว่าจะมีผู้เสียภาษีเข้าร่วมโครงการ 3.7-4.0 ล้านคน ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 120,000 ล้านบาท โดยภาครัฐสูญเสียรายได้ 10,000 ล้านบาท



-ที่ประชุม ศบศ. เห็นชอบขยายเวลาโครงการกำลังใจ และเราเที่ยวด้วยกัน ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2564



-นายกฯ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้ประชาชนที่ได้พักหนี้ไปในช่วงโควิด-19 ซึ่งมีวงเงินรวมกว่า 7,000,000 ล้านบาท ครอบคลุมลูกหนี้กว่า 12.5 ล้านคน



          มาตรการของรัฐบาลที่ออกมาทั้งหมดจะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไปได้ เพราะประเมินว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีจะมีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 200,000 ล้านบาท มาจากมาตรการต่างๆที่รัฐทำทั้งการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 21,000 ล้านบาท คนละครึ่ง 60,000 ล้านบาท และช้อปดีมีคืนอีก 120,000 ล้านบาท ที่คำนวณจากฐานผู้เสียภาษี 4,000,000 คน 



กรมส่งเสริมวัฒนธรรม มอบเกียรติบัตรให้ ‘น้องมุก’ โบกรถ เปิดทางให้รถฉุกเฉิน



          เรื่องดีต้องบอกต่อ เช้านี้ "น้องมุก" น.ส.สุธานาถ ศรีเพ็ชร นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษย์ศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จะเข้าพบ นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เพื่อรับมอบเกียรติบัตร ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม หลังจากที่โลกโซเชียลแห่แชร์คลิปสุดประทับใจ เมื่อน้องมุก วิ่งลงมาบนถนน วิ่งไล่โบกรถเพื่อเปิดทางให้รถฉุกเฉินไปได้สะดวก น้องมุก เล่าว่า เช้านั้นอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า MRT สิรินธร ได้ยินเสียงไซเรน ประมาณ 2-3 นาที แต่ก็ไม่เห็นว่ารถฉุกเฉินต้นเสียงจะแล่นมาเพราะช่วงนั้นการจราจรติดขัดมาก ทำให้ตัดสินใจวิ่งลงไปบนถนน ช่วยโบกรถคันอื่นเปิดทางให้รถฉุกเฉิน เพราะอยากช่วยรถพยาบาลคันดังกล่าว ตอนนั้นคิดถึง เรื่องของยายเพราะยายเสียชีวิตขณะที่รถฉุกเฉินจะพาไปส่งโรงพยาบาลแต่ไม่ทัน เป็นเหตุการณ์ที่จำอยู่ในใจมาโดยตลอด ทำให้รู้สึกว่าไม่อยากให้รอแม้แต่วินาทีเดียว จึงลงไปช่วย เพื่อให้รถซ้ายและขวาขยับไปได้ หลังจากช่วยเหลือแล้ว ก็ได้โทรไปสอบถามรถพยาบาลว่า ผู้ป่วยปลอดภัยดีหรือไม่ ก็ทราบว่าผู้ป่วยปลอดภัยดี เจ้าหน้าที่กู้ภัย ก็ได้ถามว่าเป็นคนที่ลงไปช่วยรถพยาบาลใช่หรือไม่



เตรียมออกหมายเรียก จนท.สวนสัตว์สงขลา มาให้ข้อมูลคดีนอแรดหาย



           ความคืบหน้าการสอบสวนคดีนอแรด ของสวนสัตว์สงขลา ที่หายไป 1 อัน มูลค่า 1,000,000 บาท จากทั้งหมด 2 อัน ซึ่งเป็นนอแรดจากแรดที่ตายเมื่อปี 2555 และกลายเป็นข่าวขึ้นมาอีกครั้งหลังเกิดคดียิงกันที่สวนสัตว์สงขลา พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผกก.สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นท้องที่รับผิดชอบคดีนี้ กล่าวว่า  เนื่องจาก สวนสัตว์สงขลา นำมาฝากไว้ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก่อนที่จะมีการเบิกออกไปทั้ง 2 อัน ล่าสุด สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบสวนคดีนี้เพราะมีการแจ้งความไว้ตั้งแต่ปี 2561 ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการออกหมายเรียก นายโกสินทร์ รัตนวิบูลย์ หนึ่งในเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับคดีมาสอบสวน ส่วนอีกคนทราบว่าได้เสียชีวิต สำหรับคดีนี้เข้าข่ายความผิดลักทรัพย์ 



          ส่วนการสอบสวนคดีเรื่องเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานตัวแรกที่หายไป พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนยังไม่ได้เรียกเจ้าหน้าที่สวนสัตว์รายใดมาสอบสวนเพิ่ม ยังคงเป็นการสืบสวนในทางลับว่าถูกขโมยไปหรือไม่ ส่วนเรื่องของการสืบสวนว่าจะเกี่ยวกับขบวนการค้าสัตว์หรือไม่ อยู่ระหว่างการรอข้อมูลทะเบียนสัตว์ย้อนหลังจากสวนสัตว์สงขลา 



ผช.ผบ.ตร. กังวล การติดตามตัว ‘บอส อยู่วิทยา’



          พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ความคืบหน้าคดี นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ขับรถยนต์ชนตำรวจเสียชีวิตว่า หลังจากที่องค์การตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล​ ออกหมายแดงนายวรยุทธ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ขั้นตอนจากนี้ คือ การประกาศหาถิ่นที่อยู่ ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ ทูตตำรวจที่ประจำต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเมื่อทราบถิ่นที่อยู่ของนายวรยุทธ แล้ว จึงจะสามารถเข้าสู่ขั้นตอนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ แต่ยอมรับว่า มีความกังวลเกี่ยวกับการติดตามตัวนายวรยุทธ เพราะจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากต่างประเทศ อีกทั้งหมายแดงที่ออกไปนั้น ไม่ใช่หมายจับ แต่เป็นหมายแจ้งเตือน  ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจบางส่วนที่บกพร่องในคดีนี้ ได้ส่งเรื่องให้กองวินัยพิจารณาตามขั้นตอนแล้ว และมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ตำรวจประมาณ 20 ถึง 21 คน



พรุ่งนี้ นำกลุ่มการ์ด ร้านป.กุ้งเผา 12 คน ส่งฟ้องศาล ทำร้ายร่างกายนักเที่ยว



          พ.ต.อ.อรรถพล  มีเสียง ผู้กำกับการสน.บางเขน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ร้านป.กุ้งเผา ย่านบางเขน รุมทำร้ายคนที่มาเที่ยวเป็นตำรวจ 2 คนและพนักงานรักษาความปลอดภัย 1 คน จนหมดสติบริเวณด้านหน้าสถานบันเทิงว่าหลังจากที่ผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวรวมทั้งสิ้น 12 คน เหลืออีกเพียง 1 คน ที่ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี พนักงานสอบสวน สอบปากคำทั้ง 12 คน ซึ่งให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และวันพรุ่งนี้ พนักงานสอบสวนจะนำทั้ง 12 คน ส่งฟ้องศาลแขวงดอนเมือง ย่านแจ้งวัฒนะ ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน คาดว่าจะได้ตัวภายใน 1-2 วันนี้



คุมเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่วที่โรงงานน้ำแข็ง ที่ อ.เขาค้อ เพชรบูรณ์ ได้แล้ว



         อุบัติเหตุก๊าซแอมโมเนีย ประมาณ 2 ตัน จากโรงงานน้ำแข็ง ในพื้นที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เกิดการรั่วไหล เพจเฟซบุ๊ก แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 03.15 น.ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางผ่านถนนสาย 2196 ได้แล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ตั้งด่านปิดเส้นทาง ห้ามเข้าออกจากบ้านเรือนและเดินทางผ่านในรัศมี 1 กิโลเมตร เพื่อควบคุมสถานการณ์ดังกล่าว



         เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์สั่งการอพยพประชาชนในรัศมี 500 เมตร ออกจากพื้นที่ทันที โดยเป็นพนักงานโรงงาน 26 คน ประชาชน 27 คน ในจำนวนนี้มีทั้งเด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ และ ผู้พิการ โดยได้เคลื่อนย้ายไปอยู่วัดแคมป์สน เป็นการชั่วคราว  ขณะเดียวกันได้ปิดกั้นพื้นที่ 100 เมตร จากโรงงาน ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปเด็ดขาด



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X