การติดตามความคืบหน้าเหตุที่ จส.100 รับแจ้งมาเมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 01.45 น.เป็นอุบัติเหตุรถเก๋งเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนรัชดาภิเษก (รัชดา-สาธุประดิษฐ์) ขาเข้า ก่อนถึงเซ็นทรัลพระราม 3 ประมาณ 50 เมตร รถเก๋งเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์บนสะพานข้ามแยกทำให้คนขับรถจักรยานยนต์กระเด็นตกลงมาข้างล่างเสียชีวิต และคนขับรถเก๋งหนี จากนั้นมามอบตัวกับตำรวจที่สน.บางโพงพาง แต่มีพยานที่เห็นเหตุการณ์เห็นว่าคนที่มาพบตำรวจไม่ใช่คนขับรถตัวจริง
นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุ แนะนำให้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูป อัดคลิปไว้เป็นหลักฐานด้วยก็จะดี ผู้กระทำผิดจะได้ไม่ลอยนวลและเมื่อไม่ได้วัดปริมาณแอลกอฮอล์ในจุดเกิดเหตุ หากมาตรวจภายหลังแอลกอฮอล์คงหมดไปแล้ว ล่าสุดเรื่องนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับเรื่องไปดำเนินคดีต่อ
ย้อนตรวจสอบอุบัติเหตุรายนี้ อาสากู้ภัย แจ้งว่า คนขับรถเก๋งหลบหนี มีกระจกมองข้างแตกหล่นอยู่ในจุดเกิดเหตุ แต่มีคนพบรถต้องสงสัยคันนี้ไปจอดหลบที่ลานจอดรถห้างโลตัส พระราม 3 มีรอยเฉี่ยวชน และกระจกที่แตกด้านหน้าเท่ากับศีรษะของคนพอดี ส่วนผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.ศุภาลัย เปรมปราณี อายุ 30 ปี นำศพส่งโรงพยาบาลจุฬา ขับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีแดง 1ขล-1244 กทม.
ด้านพ.ต.ต.ไพฑูลย์ อุปละ สารวัตรสอบสวน สน.บางโพงพาง ระบุว่า จากการสอบถามชายที่ขับรถเก๋งมีอายุแล้ว ช่วงที่ชนเกิดตกใจเลยขับรถไปทิ้งไว้
ร.ต.อ.ปภาน สีหาอาจ รอง สว.จร.สน.บางโพงพาง เปิดเผยว่า ในช่วงที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ คนงานที่ทำไฟฟ้าในบริเวณดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ได้ยินเสียงชนดังด้านบนสะพานและมีคนตกลงมา นอกจากนี้ มีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์หลายคนแจ้งข้อมูลเข้ามาว่า คนขับรถเก๋งน่าจะเมาสุราเมื่อชนแล้วขับรถต่อไปลงสะพานมาจอดริมถนน ต่อมาผู้ชายที่เป็นคนขับได้ลงจากรถในสภาพคล้ายคนมึนเมาและเรียกรถแท็กซี่หลบหนีไป ก่อนมีผู้ชายอีกคนที่นั่งโดยสารมาด้วยกันขับรถคันดังกล่าวหลบหนีไป จากนั้นมีรถเบนซ์ขับมารับ
พ.ต.อ.จุมพล คณานุรักษ์ ผกก.สน.บางโพงพาง ให้ข้อมูลว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการไล่กล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง
จากการตรวจสอบข้อมูล รถเก๋งคันที่ก่อเหตุเป็นรถโตโยต้า อัลติส สีเงิน ศฎ 949 กทม.ผู้ครอบครอง ชื่อ นายธนพล ทะษิณวราจาร บ้านอยู่ใกล้ๆที่เกิดเหตุ
ขณะที่ พลเมืองดี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า กำลังจะขับรถไปส่งของให้ลูกค้า เห็นรถเก๋งคันนี้ที่หน้าบ้านตัวเองในสภาพพังยับเยิน กระจกหน้ารถก็มีรอยแตก เหมือนเป็นรูปศีรษะมนุษย์ หลังจากนั้นไม่นานก็มีรถเบนซ์ขับตามมา คนขับเบนซ์กับคนขับรถเก๋งคันนี้ลงมาคุยกัน พลเมืองดีเข้าไปถามคนขับรถเบนซ์ อายุ 20-30ปี อ้างว่าขับรถไปชนขอบทางมา จากนั้นขับรถออกมาเจออุบัติเหตุและเมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่พบว่ารถคันที่ก่อเหตุตรงกับทะเบียนรถคันที่มาจอดหน้าบ้านตัวเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนตามมาที่บ้านพลเมืองดีเห็นรถเบนซ์คันที่มารับผ่านมาพอดี เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามติดตามแต่ไม่ทัน แต่มีพลเมืองดีคนอื่นช่วยตามมาทันกันที่บริเวณเซ็นทรัล พระราม 3 คนขับรถเบนซ์ ก็ลงมาคุยและอ้างว่าก็อยากเจอตำรวจเหมือนกัน แต่จุดที่สังเกตพบว่ามีความผิดปกติคือ คนขับรถเบนซ์ ไม่ใช่คนที่เจอหน้าบ้านแต่เป็นชายที่มีอายุและชายคนนี้ก็ไปมอบตัวกับตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดสอบปากคำที่สน.ต่อไป
CR:ภาพจากคุณชรินทร์ อาสากู้ภัย