เตือน! 32 จังหวัดของไทย ฝนตกหนักจากพายุดีเปรสชัน  

          การเคลื่อนตัวของพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 470 กิโลเมตร คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนใต้ในวันนี้ หลังจากนั้นจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเข้าสู่บริเวณอ่าวไทยตอนบนในวันที่ 8 ต.ค.โดยจะมีผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค.กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ทำให้มีฝนตกในประเทศไทย 32 จังหวัด ทั่วทุกภาค ส่วนกรุงเทพ-ปริมณฑล ฝนตกหนักร้อยละ 80 ของพื้นที่

พายุเดลต้า แรงขึ้นเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 2 เคลื่อนใกล้อ่าวเม็กซิโก

         พายุเดลต้า ทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 2 และอยู่บนเส้นทางที่จะเคลื่อนเข้าใกล้อ่าวเม็กซิโกในวันพฤหัสบดี เป็นพายุลูกที่ 10 ที่จะทำให้สหรัฐฯได้รับผลกระทบ ทำให้บริษัทพลังงานต่างๆ ต้องปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปิดตลาดเมื่อคืนนี้ลดลง

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 40.67 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

-ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 42.65 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

         ประเด็นที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯระงับการเจรจาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ฟื้นฟู เศรษฐกิจสหรัฐฯจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ไปหลังเลือกตั้ง ฉุดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลง

-ดาวโจนส์ ลดลง 375.88 จุด หรือร้อยละ 1.34 ปิดที่ 27,772.76 จุด

-เอสแอนด์พี ลดลง 47.68 จุด หรือร้อยละ 1.40 ปิดที่ 3,360.95 จุด

-แนสแดค ลดลง 177.88 จุด หรือร้อยละ 1.57 ปิดที่ 11,154.60 จุด

         ก่อนหน้านี้ นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต และนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลัง กลับมาเจรจากันอีกครั้ง เพื่อหาทางผ่านร่างกฎหมายเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน(CARES Act) จำนวน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เยียวยาผลกระทบโควิด-19 ขณะเดียวกัน นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ส่งเสียงเตือนเกี่ยวกับผลกระทบเลวร้ายทางเศรษฐกิจ หากสภาคองเกรสล้มเหลวในการผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

         ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคารปรับลดแรง หลังดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 11.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,908.80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์

นายกฯ กำชับต้องหาคำตอบปมเก้งเผือกหายให้ได้

         พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีการหายไปของเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทาน ในสวนสัตว์สงขลาว่าจะต้องไปหาสาเหตุที่แท้จริง เรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ไม่สบายใจ และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ในส่วนตัวสั่งกำชับไปว่าต้องหาคำตอบมาให้ได้ว่าเก้งเผือกหายไปได้อย่างไร รวมถึงซากกระดูกที่พบเป็นของเก้งเผือกที่หายไปหรือไม่ ขออย่าเพิ่งสรุปหรือตัดประเด็นใดออกไป แต่ต้องให้เวลาคณะกรรมการได้ทำงานก่อน ส่วนเก้งเผือกตัวที่ระบุว่าถูกงูกิน ทำให้นายกฯ ตั้งข้อสังเกตว่า “แปลก งูทำไมกินตัวสีขาว มันเชื่องเกินไปหรือไม่ ตัวสีอื่นไม่กิน แปลกดีเหมือนกัน ก็ไม่รู้ อันนี้เป็นเรื่องของผลการสอบสวนแล้วกัน ผมคิดว่าอย่าเพิ่งสรุปสาเหตุ หรือตัดประเด็นใดออกไป ทุกอย่างต้องมีคำตอบ” 

บอร์ดองค์การสวนสัตว์ ตั้ง'สมิทธิ'รักษาการ เร่งสรรหาผอ.ภายใน 90วัน

         นายชวลิต ชูขจร ประธานบอร์ดองค์การสวนสัตว์ฯ ได้ร่วมประชุมกับคณะกรรมการเพื่อพิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงใน 2 เรื่อง คือ เก้งเผือกหาย และคดีการยิงผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ สรุปว่า

-บอร์ดองค์การสวนสัตว์ฯมีมติแต่งตั้งนายสมิทธิ ดารากร ณ อยุธยา กรรมการองค์การสวนสัตว์ เป็นรักษาการผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ เพื่อแก้ปัญหาภายในสวนสัตว์ เรื่องความโปร่งใส การแสดงบัญชีสัตว์ สถิติการตาย การเกิด การดูแลของทุกสวนสัตว์ให้สังคมสามารถเข้าถึงตรวจสอบได้จากทางออนไลน์ จากนั้นจะเร่งกระบวนการสรรหาซีอีโอตัวจริง ซึ่งได้แต่งตั้งกรรมการสรรหาแล้ว อาจต้องใช้เวลาประมาณ 90 วัน

ส่งซากเก้งเผือกตรวจซ้ำที่กรมอุทยานฯ

-กรณีเก้งเผือกหายไป 2 ตัว

1.ตัวแรกหายไปภายในเดือน ก.พ. 63 จากนั้นพบซากกระดูกในเดือนเม.ย.63 และได้นำซากไปตรวจกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปรากฏผลออกมายังไม่ชัดเจน กรรมการสอบสวนจึงมีมติว่าอาจจะต้องส่งซากไปตรวจอีกครั้งในระดับเซลล์ อาจต้องมีเนื้อเยื่อหรือองค์ประกอบของซากเพิ่มเติมเพื่อตรวจได้อย่างแม่นยำ โดยได้สอบถามไปยังนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งกรมอุทยานฯได้แจ้งว่าสามารถส่งซากมาตรวจสอบได้เลยเพราะมีห้องแล็บที่สามารถตรวจสอบในเชิงลึกได้ ทั้งนี้หากตรวจสอบว่าผลออกมาเป็นเก้งเผือกตัวเดียวกันปัญหาก็จบ แต่ถ้าไม่ใช่เก้งเผือก ปัญหาคือ มีคนขโมยไปใช่หรือไม่

2.ตัวที่ 2 หายไปเมื่อวันที่ 22 ก.ย.63 ตัวที่ 2 เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าถูกงูเหลือมกิน พบซากเก้งเผือกอยู่ในท้องงูบริเวณโรงเลี้ยงเก้งเผือก คณะกรรมการแจ้งว่า พบงูอยู่ในโพรงจึงพยายามดึงงูออกมา ปรากฏว่างูเหลือมที่กินเก้งเผือกอายุ 9 เดือน ซึ่งตัวเริ่มใหญ่แล้ว เมื่อถูกดึงจากโพรงที่มีขนาดเล็กทำให้ท้องงูแตก และพบซากเก้งอยู่ในท้อง ซึ่งขณะนี้ซากอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นเก้งเผือกจริงๆ แต่ปัญหาเกิดจากการที่ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา ไม่รายงานต่อซีอีโอในทันที กลายเป็นเรื่องบานปลายไป ซึ่งผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา ชี้แจงว่าจะรายงานตามรอบเดือนตามระเบียบอยู่แล้ว ทำให้เข้าใจผิดว่าเก้งเผือกหายซ้ำซ้อนกันอีก ทั้งนี้ งูในพื้นที่สวนสัตว์สงขลามีจำนวนมาก ปีที่แล้วจับงูได้กว่า 200 ตัว

         ส่วนเรื่องนี้ถูกเชื่อมโยงว่าสวนสัตว์เป็นแหล่งค้าสัตว์ป่าหรือไม่ มีการอาศัยช่องว่างต่างๆ เช่น เจ้าหน้าที่สวนสัตว์หาประโยชน์จากตรงนี้หรือไม่ กระทรวงทรัพยากรฯได้คัดสรรผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก เพื่อความโปร่งใส ในส่วนของบอร์ดได้ส่ง รศ.เจษฎ์ โทณวณิก กรรมการองค์การสวนสัตว์ฯ เข้าเป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว รวมทั้งสิ้น 6 คน เพื่อตรวจสอบในเรื่องนี้ว่ามีขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าในสวนสัตว์หรือไม่ ซึ่งไม่ใช่แค่สวนสัตว์สงขลา แต่เป็นทุกสวนสัตว์ในสังกัดองค์การสวนสัตว์ฯ ทั่วประเทศ

กรณีแรดขาวที่หายไป จากข้อมูลการสอบสวนคดีพบว่า

-25 ก.พ.55 แรดขาวของสวนสัตว์สงขลาตาย 1 ตัว สวนสัตว์สงขลาได้มีการตัดนอแรด 2 อัน ซึ่งเป็นนอแหลมที่เป็นนอยาวที่โผล่ออกมาข้างนอก กับนอทู่ที่อยู่ภายในต้องผ่าออกมา นำมาเก็บไว้ที่คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ.วิทยาเขตหาดใหญ่

-11 มิ.ย.61 สวนสัตว์สงขลาได้มาติดตามนอแรด 2 นอ ปรากฏว่าได้มีการเบิกคืนนอแรดทั้ง 2 นอไปแล้ว โดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์สงขลา ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.56 แต่ปรากฏว่าเมื่อมีการตรวจสอบพบว่ามีการทำเอกสารเท็จเบิกนอแรดไปเพียงแค่ 1 นอ

- 3 ก.ค.61 สวนสัตว์สงขลาได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสงขลา ได้โอนสำนวนมา สภ.คอหงส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นเรื่องที่นอแรดหายไป สวนสัตว์สงขลาได้สอบสวนติดตามนอแรดที่หายไปปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวที่เกี่ยวข้อง 2 คน คือคนที่ไปเบิกนอแรดจากคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ส่วนอีกคนเป็นคนรับนอแรดทั้ง 2 นอไป และได้มีการไล่ออกเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนไปแล้ว แต่สามารถติดตามนอแรดคืนมาเพียงอันเดียว ซึ่งเป็นนอทู่ ส่วนนอแหลมหายไปอย่างไร้ร่องรอย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่รับนอแรดได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยโรคประจำตัว จึงไม่สามารถขยายผลได้ว่านอแรดแหลมหายไปไหน ระบุมูลค่าว่ามีมูลค่าสูงถึงนอละ 1,000,000 บาท คดีการหายไปของนอแรด พนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ อยู่ระหว่างการเรียกสอบพยานและออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ปากคำ

          กรณีของนกแก้วมาคอว์ที่หายไป 13 ตัว สวนสัตว์สงขลาสามารถติดตามคืนมาได้ 2 ตัว พร้อมกับผู้ต้องหา 1 คน ที่นำมาโพสต์ขาย คดีในศาลได้ยกฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาลักทรัพย์เพราะไม่สามารถยืนยันได้ว่านกแก้วมาคอว์เป็นของสวนสัตว์สงขลาหรือไม่ เพียงแค่ดำเนินคดีครอบครองสัตว์ป่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองจะรื้อคดีขึ้นมาใหม่เช่นกัน

รมว.ศธ.เร่งรื้อระบบการอนุมัติใบประกอบวิชาชีพครู

          ปัญหาครูและพี่เลี้ยงเด็กโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ที่ทำร้ายเด็ก จากการตรวจสอบพบว่าหลายคนไม่มีใบประกอบวิชาชีพ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึง ปัญหาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพและจรรยาบรรณความเป็นครูว่าเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องปรับปรุงทั้งวิธีการอนุมัติ การควบคุม และการลงโทษ ยอมรับว่าการตรวจสอบใบอนุญาตมีปัญหาแต่ถ้านำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรวบรวมข้อมูล เชื่อว่า จะพัฒนาระบบตรวจสอบให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่วนการปิดโรงเรียนต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากโรงเรียนมีนักเรียนหลายพันคน มีผู้ที่ไม่ได้อยู่ในวังวนของปัญหาจำนวนมาก ดังนั้น การดำเนินการต่างๆ ศธ.ต้องพิจารณาด้วยความระมัดระวัง

          ส่วนความคืบหน้าของคดี  พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี มีคดีความ 54 คดี มีผู้เสียหายประมาณ 30 คน มีครูและพี่เลี้ยง 13 คน ที่เข้าข่ายความผิด ทยอยรับทราบข้อกล่าวหา นอกจากนี้ ครุสภาแจ้งความผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์ฯ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ครู กรณีรับคนที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเข้ามาสอน วันนี้ สภ.ชัยพฤกษ์ นัดโรงเรียนมารับทราบข้อกล่าวหา