ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันพุธ 7 ตุลาคม 2563

ศบศ.พิจารณาหลักเกณฑ์นักธุรกิจเข้าไทย โดยเฉพาะกลุ่มเดินทางระยะสั้น   

          คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันนี้ พิจารณาแนวทางการเปิดประเทศ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะเสนอ ศบศ.พิจารณาในเรื่องต่างๆ

-หลักเกณฑ์และข้อปฏิบัติในการเปิดรับนักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเพิ่มเติม

-พิจารณารายละเอียดของวีซ่าพิเศษ (STV) ที่จะอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าไทยเพิ่มเติม หลังจากผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติที่มาพำนักในไทยระยะยาว ซึ่งเป็นการผ่อนคลายเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้มากขึ้นตามนโยบายที่นายกฯให้ไว้ โดยมาตรการทั้งหมดต้องมีความชัดเจนในสัปดาห์นี้  ซึ่งกลุ่มนี้ไม่สะดวกในการกักตัว 14 วัน เพราะเดินทางมาระยะสั้น และเดิมนั้นการปฏิบัติการ คือ ให้ตรวจจากประเทศต้นทางและเมื่อเดินทางเข้าไทยให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำ แต่ไม่ต้องกักตัว ส่วนการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ต้องมีผู้กำกับการเดินทาง ซึ่งเดิมกำหนดให้เป็นบุคลากรทางการแพทย์หรือสาธารณสุขของไทยมากำกับการเดินทาง แต่มีข้อเสนอว่าคนที่ต้องรับผิดชอบและกำกับการเดินทาง คือ คู่ค้าหรือบริษัทที่จะเจรจาธุรกิจ หากมีเหตุใดเกิดขึ้นก็ต้องเป็นผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ 

           การหารือใน ศบศ.เป็นไปตามคำสั่งนายกฯ ที่หากมาตรการกลุ่มใดพร้อมในการผ่อนคลายให้เสนอมาตรการทันทีไม่ต้องรอพร้อมกัน และมาตรการแต่ละกลุ่มไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ซึ่งต้องหารือการควบคุมโรคระบาดควบคู่กับการผ่อนคลายทางเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจเดินได้มากขึ้น

          ก่อนหน้านี้ ศบค.ได้อนุมัติให้นักธุรกิจและผู้มีใบอนุญาตทำงานเดินทางเข้าประเทศมาแล้ว 11,000 คน และคนกลุ่มนี้ได้ยอมรับการเข้ากักตัวในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) 14 วัน รวมทั้ง ศบค.อนุมัติให้มีนักท่องเที่ยวแบบ Long Stay โดยใช้ STV ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563 และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ต้องกักตัวใน ASQ 14 วัน แต่มีนักธุรกิจที่เดินทางมาระยะสั้นจึงควรมีมาตรการพิเศษในการกำกับดูแล ซึ่ง ศบศ.จะพิจารณามาตรการและรายละเอียดในครั้งนี้ตามข้อเสนอ สมช. 

ปลัดสธ.เผยแนวคิดลดวันกักตัว อยู่ระหว่างทำแผน ป้องกันความเสี่ยง

          ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจะนำเสนอแบบจำลองการระบาด (ฉากทัศน์) ของโรคที่อาจเกิดขึ้นในรอบต่อไป รวมถึงความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ เพราะไทยจัดการการระบาดของโควิด -19 ได้ดี ได้รับคะแนนสูงสุดในโลก แต่ขณะเดียวกันเศรษฐกิจได้รับผลกระทบมาก ดังนั้น ต้องเปิดประเทศแต่เป็นแบบค่อยๆ แง้มประตูในระดับที่รับได้ เป็นการสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมโรคกับเศรษฐกิจ

          แนวคิดการลดวันกักตัวนักท่องเที่ยวนั้น อยู่ระหว่างการศึกษาและทำแผนว่าหากกักตัว 14 วันความเสี่ยงเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ลดกักตัวเหลือ10 วันความเสี่ยงเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าลดเหลือ 7 วัน ความเสี่ยงเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาด้วยว่ามาจากประเทศเสี่ยงมากหรือเสี่ยงน้อยอย่างไร ซึ่งจำนวนวันของการกักตัวจะพิจารณาแตกต่างกันในแต่ละประเทศ เช่น มาจากประเทศเสี่ยงสูงอาจจะกักตัว 10 วัน แต่ถ้าประเทศเสี่ยงต่ำก็ลดวันกักตัวลง

          นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า มีการคุยกันในศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกระทรวงสาธารณสุข (EOC) พบว่า การสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคติดต่อได้ดีแม้แต่โควิด-19 เพราะจำนวนคนที่นั่งเครื่องบินจากต่างประเทศเข้ามาไทย ซึ่งในเที่ยวบินนั้นมีผู้ป่วย 3-4 คน โดยสารนานกว่า 10 ชั่วโมงจากสหรัฐฯมาไทย แต่เพราะสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่อง อาจจะมีช่วงสั้นที่ถอดเพื่อรับประทานอาหารก็ไม่มีการกระจายของโรค และคนสวมหน้ากากอนามัยไม่ได้ติดเชื้อ

ฟื้นมาตรการ! ชิมช้อปใช้-ช้อปช่วยชาติ เสนอ ศบศ. พิจารณา

          นอกจากนี้ ที่ประชุมศบศ.จะหารือมาตรการกระตุ้นการบริโภคผ่านโครงการชิมช้อปใช้ และมาตรการช้อปช่วยชาติ โดยชื่ออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ขณะนี้กำลังสรุปว่าจะเรียกชื่อมาตรการว่าอะไร นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เตรียมดำเนินการทั้ง 2 มาตรการไว้แล้ว คาดว่า หลังผ่านการพิจารณาของ ศบศ. และเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ ก็จะดำเนินโครงการได้เลย สำหรับรายละเอียดมาตรการกำลังพิจารณา ซึ่งมีหลายวิธี เช่น มาตรการชิมช้อปใช้อาจจะเป็นการให้ร่วมจ่าย ไม่ใช่รัฐให้เงินฝ่ายเดียวเหมือนที่ผ่านมา ส่วนมาตรการช้อปช่วยชาติ ก็จะดูว่าจะให้นำค่าใช้จ่ายไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ หรือจะคืนเป็นเงินสดหรือแคชแบ็ค ซึ่งผลที่จะออกมาเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นให้แรงจูงใจจากมาตรการภาษีหรือมาตรการทางการเงิน

พบคนขับรถบรรทุก 4 คัน ในจังหวัดเมียวดี ติดเชื้อโควิด-19

          นายอู เตซาอ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า คนขับรถขนส่งสินค้าที่ออกจากเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ของเมียนมา เพื่อไปส่งสินค้าที่กรุงย่างกุ้ง 4 คัน ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยในจำนวนนี้มีอยู่ 3 คัน ถูกตรวจพบที่ด่านเฝ้าระวังโควิด-19 เมืองไจก์โท รัฐมอญ อีก 1 คันตรวจพบที่ด่านในเมืองพะอัน ได้แจ้งให้ผู้ที่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับคนขับรถทั้ง 4 คัน ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการกักตัว และจะมีการตรวจสอบสถานที่ในเมียวดีที่ทั้ง 4 เคยไปเพื่อล็อกดาวน์ด้วย

         จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง เมียนมา เป็นหัวเมืองชายแดนที่อยู่ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ถือเป็นประตูการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ที่สำคัญที่สุด มูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศที่นี่แต่ละปีสูงหลายหมื่นล้านบาท สินค้าไทยที่จะส่งเข้าไปยังย่างกุ้งเพื่อกระจายต่อไปทั่วเมียนมาต้องส่งเข้าไปผ่านช่องทางนี้

          ปัจจุบันการเฝ้าระวังโควิด-19 ที่จุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพแม่สอด-เมียวดี ค่อนข้างเข้มงวด รถสินค้าของทั้ง 2 ประเทศ เมื่อข้ามฝั่งไปแล้วมีเวลาเพียง 7 ชั่วโมงเพื่อขนถ่ายสินค้าให้เสร็จและรีบข้ามกลับเข้ามายังฝั่งของตัวเอง

เตือน!ฮ่องกง เสี่ยงเกิดระบาดระลอก 4 ปลายปี

          นางแคร์รี แลม ผู้บริหารฮ่องกงเปิดเผยว่า สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสามนั้นควบคุมได้แล้ว โดยมีผู้ติดเชื้อเกือบ 4,000 คน เสียชีวิต 98 ราย ระหว่างต้นเดือนก.ค.ถึงปลายเดือนก.ย. ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า มีโอกาสเกิดระบาดระลอกสี่ปลายปีนี้ เพราะยังติดเชื้อในชุมชนแบบหาที่มาไม่ได้ ผู้คนมีกิจกรรมทางสังคมเพิ่มขึ้น และมีการจับคู่ท่องเที่ยวหรือแทรเวลบับเบิลแล้ว

          ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า โรงเรียนมีความเสี่ยงติดเชื้อสูงไม่ต่างจากบ้านพักคนชรา หอพัก และที่พักตามไซต์ก่อสร้าง เพราะคนมาอยู่หนาแน่น ใกล้ชิดกันในที่ปิดเป็นเวลานาน แม้สวมหน้ากากอนามัยก็เสี่ยงติดเชื้อได้ นักเรียนที่ติดเชื้อ ไม่แสดงอาการจะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อขนาดใหญ่อย่างเงียบ ๆ แต่แพร่ได้กว้างและไกลโดยที่ตัวเองไม่ป่วย ทำให้คนในครอบครัวโดยเฉพาะผู้สูงอายุติดเชื้อได้