รัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯปิดโรงเรียนในบางท้องที่หลังตัวเลขผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น

          หลังจากเพิ่งเปิดโรงเรียนได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ สั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนใน 9 พื้นที่ของนครนิวยอร์ก เช่น ย่านบรูคลินและย่านควีน ตั้งแต่วันนี้ หลังตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก สั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจดังกล่าวของหน่วยงานท้องถิ่น แต่เขายังไม่ปิดที่ทำการขององค์กรทางศาสนาและธุรกิจอื่นๆหลายแห่ง ระบุว่า ประเด็นเร่งด่วนที่เขาให้ความสำคัญสูงสุดคือ โรงเรียน

          แต่การที่รัฐนิวยอร์กสั่งปิดโรงเรียนอีกครั้ง ทั้งๆที่เปิดเรียนได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ชี้ว่าโรงเรียน มหาวิทยาลัยและธุรกิจในรัฐนิวยอร์กยังมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอัตราที่สูงขึ้น แม้ว่า รัฐบาลท้องถิ่น พยายามจะชั่งน้ำหนักให้เกิดความเหมาะสม ระหว่างการเปิดเศรษฐกิจท้องถิ่นตามปกติกับการทำตามมาตรการควบคุมทางสาธารณสุขเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

          สำหรับผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในสหรัฐฯ คือ ปัญหาการเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งแต่เดิมเป็นปัญหาระยะสั้น ในอนาคตเรื่องนี้จะเป็นปัญหาระยะยาวในระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาว จะกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดใหม่ มีคนใกล้ชิดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างน้อย 13 คน ติดโรคโควิด-19 เช่น น.ส.โฮป ฮิกส์ ที่ปรึกษาระดับสูงของนายทรัมป์ เป็นเหตุให้นายทรัมป์และนางเมลาเนีย ภริยา ติดโรคโควิด-19 ด้วย นอกจากนี้ ชาวอเมริกันกว่า 40,000 คน ติดโรคโควิด-19 ต่อวันในปัจจุบัน

          ทั้งนี้ สหรัฐฯมีผู้ป่วยสะสม 7,679,644 คน เสียชีวิต 215,032 ราย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดคือ รัฐแคลิฟอร์เนีย,เท็กซัส,ฟลอริดา,นิวยอร์กและรัฐจอร์เจีย

Cr: CNN, Wall Street Journal