เร่งสอบเหตุไฟไหม้สวนสนุกไท่ไท่ซาน มณฑลชานซี เสียชีวิต 13 เจ็บ 15 คน
จีน ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุไฟไหม้รุนแรงที่สวนสนุกไท่ไท่ซาน (Taitaishan) ในเมืองไท่หยวน (Taiyuan) มณฑลชานซี (Shanxi) ทางตอนเหนือของจีน ในระหว่างฉลองวันชาติจีน ไฟได้ลุกไหม้อาคารจัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งภายในสวนสนุก ท่ามกลางประชาชนจำนวนมาก ที่พากันมาท่องเที่ยวฉลองวันชาติจีน เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บ 15 คน
สวนสนุกแห่งนี้ มีพื้นที่กว้างขวางพร้อมพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง พร้อมเครื่องเล่นอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ อยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่
มีการเผยภาพถ่ายจากโดรน เผยให้เห็นรถยนต์บนท้องถนนหลายพันคันจอดนิ่งอยู่กับที่ การจราจรหนาแน่นเป็นระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร บนสะพานเจียวโจว เบย์ (Jiapzhou Bay) ในมณฑลชานตง เนื่องจากประชาชนจำนวนมากพากันเดินทางออกนอกเมือง เพื่อไปท่องเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดยาววันชาติจีนที่ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 8 ต.ค. วันชาติจีนปีนี้ตรงกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วย
เร่งตามหาคนร่วมงานเดียวกับ ‘ทรัมป์’ ตรวจหาเชื้อโควิด-19
การติดตามบุคคลที่ร่วมงานกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ช่วงก่อนที่จะพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ทำเนียบขาว กำลังเร่งตามหาผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ในกลุ่มผู้ช่วยและผู้สนับสนุนของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะผู้เข้าร่วมพิธีเสนอชื่อนางเอมี่ โคนีย์ บาร์เรตต์ เป็นผู้พิพากษาศาลสูงสุด เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว 26 ก.ย.ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เชิญแขกกว่า 150 คน ในงานที่จัดขึ้นที่โรสการ์เดน และมีการจับมือและสวมกอด ส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย
นอกจากนั้น ยังมีการจัดงานภายในอาคารที่นางเอมี่ ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลสูงสุด และครอบครัว รวมถึงวุฒิสมาชิกและแขกอื่นๆ อีกหลายคนใช้เวลาร่วมกันในพื้นที่ที่ค่อนข้างแออัด โดยในบรรดาผู้ร่วมงานเหล่านั้นที่ตรวจพบติดเชื้อแล้ว เช่น คริส คริสตี้ อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ เคลลีแอน คอนเวย์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาว เป็นต้น
‘ทรัมป์’ โบกมือทักทายผู้สนับสนุนด้านนอกศูนย์การแพทย์ ส่งสัญญาณ อาจกลับไปทำเนียบขาววันนี้
อาการป่วยของประธานาธิบดีทรัมป์ นพ.ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ระหว่างรักษาตัวที่ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด ที่เมืองเบเธสดา รัฐแมริแลนด์ แพทย์ได้ให้ยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) 8 กรัม เป็นโดสที่ 2 จากทั้งหมด 5 โดส และไม่พบอาการข้างเคียง ไม่มีไข้และไม่ต้องใช้รับออกซิเจน หัวใจ ตับ ไต ทำงานปกติ ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่มีปัญหาเรื่องการหายใจ แต่ยังต้องติดตามอาการต่อเนื่อง เนื่องจาก ประธานาธิบดีทรัมป์ อายุ 74 ปี และเป็นโรคอ้วน จึงมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะมีอาการแทรกซ้อนรุนแรง
อย่างไรก็ตาม มีภาพที่ประธานาธิบดีทรัมป์ สวมหน้ากากอนามัย นั่งรถออกมาจากศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด และโบกมือทักทายกลุ่มผู้สนับสนุนที่มาให้กำลังใจ เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงอาการของเขา และมีรายงานว่าภายในวันนี้แพทย์จะพิจารณาให้ออกจากศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด และกลับไปรักษาตัวที่ทำเนียบขาว
สำหรับนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่ติดโควิด-19 เช่นเดียวกัน ยังคงรักษาตัวอยู่ในทำเนียบขาว ประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า ภรรยาของตนรับมือได้ดีมากและพูดติดตลกว่า เป็นเพราะนางเมลาเนีย อายุอ่อนกว่าตนนิดหน่อย ทั้งที่จริงๆแล้วทั้งคู่อายุห่างกัน 24 ปี
โพลชี้ ‘ไบเดน’ นำ ‘ทรัมป์’ 10 แต้ม เลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ
ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหรือโพลของรอยเตอร์ร่วมกับ Ipsos ระบุว่า การหยั่งเสียงความคิดเห็นประชาชนเมื่อวันที่ 2-3 ต.ค.สำหรับการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. พบว่า ร้อยละ 51 ให้การสนับสนุนนายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ขณะที่ ร้อยละ 41 จะลงคะแนนเสียงให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ส่วนอีกร้อยละ 4 จะเลือกผู้สมัครคนที่สาม และอีกร้อยละ 4 บอกว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงคะแนนเสียงให้กับใคร
คะแนนห่างร้อยละ 10 ถือว่าห่างมากที่สุด จากที่เคยห่างกันแค่เพียงร้อยละ 1-2 เท่านั้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ชาติในเอเชีย เตรียมแผน กรณีสหรัฐฯ เลื่อนเลือกตั้ง – ‘ไบเดน’ ชนะเลือกตั้ง
หลายชาติเตรียมแผนสอง กรณีนายไบเดน ชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน รัฐบาลของแต่ละประเทศปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสอบถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ หากว่าประธานาธิบดีทรัมป์หายป่วยไม่ทันกำหนดการเลือกตั้งหรือการอาการป่วยทรุดลง
-เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ รายงานว่า ทำเนียบสีฟ้าของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ เตรียมแผนสองเอาไว้ นายชอย กัง (Choi Kang) รองประธานสถาบันเอเชียเพื่อการศึกษานโยบาย (Asian Institute for Policy Studies) ในกรุงโซล แสดงความเห็นว่า ชาวอเมริกันบางส่วนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้ว นายชอย ชี้ว่า การป่วยของประธานาธิบดีทรัมป์ จะกระทบต่อการเลือกตั้งสหรัฐฯและอาจมีผลต่อนโยบายด้านเกาหลีเหนือของสหรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลของนายมุนกับรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์มีความสัมพันธ์ที่ดี โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาจัดการกับเกาหลีเหนือ
-ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University)ของสิงคโปร์ นายโจเซฟ โลว์(Joseph Liow )แสดงความเห็นว่า การป่วยของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนมีความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น
-นายมุสตาฟา อิซซุดดิน (Mustafa Izzuddin) นักวิเคราะห์อาวุโสด้านระหว่างประเทศประจำบริษัทที่ปรึกษาโซลาริสยุทธศาสตร์สิงคโปร์( Solaris Strategies Singapore) แสดงความเห็นว่า รัฐบาลในชาติเอเชียแสดงความไม่เห็นด้วยหากจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ออกไปจากวันที่ 3 พ.ย.เนื่องจากต้องเตรียมความพร้อมเรื่องของนโยบายต่างๆให้เหมาะสม พร้อมทั้ง วิเคราะห์ว่า ดูเหมือนว่าชาติเอเชียต้องการที่จะให้นายไบเดน ชนะการเลือกตั้งมากกว่า เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ค่อยให้ความสนใจในภูมิภาคเอเชีย
-นายหู เฉียว ปิง( Hoo Chiew Ping) ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์และการต่างประเทศประจำมหาวิทยาลัยมาเลเซีย แสดงความเป็นห่วงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ว่าสหรัฐฯจะดำเนินการและจัดการเรื่องนี้อย่างไร