นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าจากข้อสังเกตเรื่องการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรที่สูงกว่าประมาณการในเดือนสิงหาคม 2563 โดยกรมสรรพากรจัดเก็บรายได้จำนวน 232,369 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 30,742 ล้านบาทนั้น สาเหตุเนื่องจากการขยายระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ปกติจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2563 และเดือนพฤษภาคม 2563 ตามลำดับ ซึ่งกรมสรรพากรได้ขยายเวลาเป็นสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม 2563 ตามมาตรการเพิ่มสภาพคล่องในมือประชาชนและผู้ประกอบการ ซึ่งทำให้ภาษีที่จัดเก็บได้กระจุกตัวในเดือนสิงหาคม 2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. การขยายระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2562 (แบบ ภ.ง.ด. 50 และแบบ ภ.ง.ด. 55) เฉพาะรายที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ต้องยื่นภายในเดือนเมษายน 2563 ถึงเดือนสิงหาคม 2563 ขยายออกไปถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ทำให้จัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลได้จำนวน 131,649 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 42,335 ล้านบาท
2. การขยายระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2562 (แบบ ภ.ง.ด. 90 และแบบภ.ง.ด. 91) จากสิ้นสุดภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ทำให้จัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในเดือนสิงหาคม 2563 ได้จำนวน 30,822 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,827 ล้านบาท
.......................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก