องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบึงกาฬ เรียกร้องให้สนช.เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร

29 ธันวาคม 2557, 13:29น.


ในการที่สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) ลงพื้นที่เพื่อรับฟังความเห็นจากประชาชนและหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.บึงกาฬ ในโครงการ"สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พบประชาชน"  ซึ่งนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่ 2 รับฟังความเห็นจากหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งมีการเสนอประเด็นทางการเมืองและเรียกร้องให้ช่วยแก้ปัญหาในหลายเรื่อง เช่น ตัวแทนขององค์การบริหารส่วนตำบลบึงกาฬ ที่เสนอให้พัฒนาสินค้าการเกษตร โดยเฉพาะยางพาราที่สร้างรายได้กว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งเสนอให้เร่งผ่านร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.... เป็นกฎหมาย เพื่อให้เกิดผลบังคับใช้ที่เคร่งครัดในการชุมนุม นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่ 2 ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้เป็นนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการควบคุมผู้ชุมนุมและจัดระเบียบการชุมนุม คาดว่าสนช.จะมีการพิจารณาร่างนี้ได้ในปลายเดือนมกราคม 2558 โดยมีสาระสำคัญอยู่ที่การจัดชุมนุมต้องแจ้งรัฐบาลล่วงหน้า และต้องมีเวลาการชุมนุมที่ชัดเจน โดยรัฐบาลจะจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมและดูแลการชุมนุมให้



ส่วนภาคการเกษตร นายอิสระ ว่องกุศลกิจ สมาชิกสนช.ก็ระบุว่า ต้องมีการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและบูรณาการความร่วมมือการเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใหม่ๆ



นอกจากนี้หน่วยงานปกครองท้องถิ่นยังเสนอให้มีการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ด้วยระบบที่เหมาะสมและให้บัญญัติถึงบทบาทหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนว่าต้องมีวาระการทำงานจนถึงอายุ 60 ปีตามเดิมและปราศจากการแทรกแซงของนักการเมือง ซี่งนายพีระศักดิ์ ระบุว่า บทสรุปต่างๆของทั้งเรื่องกำนันและที่มาของส.ว. , ส.ส.เป็นเพียงข้อสรุปเบื้องต้น ต้องมีการพิจารณากันอีกมาก นอจากนี้ยังมีการเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยสร้างถนน เนื่องจากปัจจุบันมีถนนที่ใช้งานได้จริงเพียง 200 กว่ากิโลเมตรจากเนื้อที่ในจังหวัดกว่า 4,3000 กิโลเมตรด้วย



ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ระบุว่า ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จไปเพียงร้อยละ 30 จากเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 5 ไร่เศษ โดยขณะนี้กำลังเร่งรัดของบประมาณเพิ่มเติ่ม เพื่อก่อสร้างให้แล้วเสร็จ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางแบบวันสต็อปเซอร์วิสในการให้บริการประชาชน โดยนายพรศักดิ์ เจียรณัย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬและสมาชิกสนช.ก็ระบุว่า ควรเร่งเบิกจ่ายงบประมาณโดยเร็วภายในต้นปีหน้า หากศูนย์ราชการสร้างเสร็จแล้ว เชื่อว่าจะช่วยสร้างความเจริญและทำให้หน่วยงานรัฐทำงานได้สะดวกขึ้น



ทั้งนี้จังหวัดบึงกาฬเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางอีสต์เวสต์ คอริดอร์ และมีวาระผลักดันเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการเกษตรเพื่อเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยางพาราในอาเซียน มีสินค้าที่สำคัญในการส่งออก คือ ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าว โดยมีการปลูกยางพารามากเป็นอันดับ 6 ของประเทศ ส่วนวาระเร่งด่วนคือ ต้องการพัฒนาเมือง เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปควบคู่กัน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน



...ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร รายงาน

ข่าวทั้งหมด

X