รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้ ตัวเลขไทยติดเชื้อโควิด-19จริง อาจมีถึง 6 พันคน

          สถานการณ์ภาพรวมของประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของทั้งโลกขณะนี้มีผู้ป่วย 34 ล้านคน  นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ของโลกยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้นเท่าไหร่ ยังไม่มีทีท่าว่าผู้ป่วยรายใหม่จะลดลง และการรายงานผู้ป่วยทั่วโลกคาดว่าจะต่ำกว่าความเป็นจริงมาก นักวิชาการ เชื่อว่าทั้งโลกน่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่เกิน 100 ล้านคน ในส่วนของประเทศไทยก็เช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยในระบบรายงานอยู่ที่ 3,575 คนแต่จากการค่าประมาณของทีมวิชาการคาดว่าประเทศไทยน่าจะมีผู้ป่วยมากกว่านี้ โดยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6 พันกว่าคน

          รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำว่า วันนี้สถานการณ์จากเมียนมาเป็นตัวกดดันสำคัญของประเทศว่าจะมีการระบาดเข้ามา เพราะฉะนั้นเรื่องการกวดขันคนที่เดินทางเข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้มีน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ที่ทุกฝ่ายไม่เพียงแต่ภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ประชาชนทุกคนต้องช่วยกันสอดส่อง เป็นหูเป็นตาให้ภาครัฐ"

          นพ.ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า เราสามารถพบผู้ป่วยรายใหม่ได้ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย และไม่ใช่เรื่องที่ต้องตื่นตระหนก แต่จะทำอย่างไร ให้ไม่นำไปสู่การระบาดระลอกใหม่ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เราหละหลวม ประมาท จะกลับมาระบาดได้อีก เป็นเรื่องสำคัญที่ฝ่ายสาธารณสุขเตรียมแผนการรองรับเอาไว้ ซึ่งเท่าที่มีการพูดกันว่าถ้ามีการระบาดระลอก 2 จะรุนแรงกว่ารอบแรก แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับมาตรการควบคุมป้องกันโรค และความร่วมมือของประชาชนหากสวมหน้ากากอนามัยหน้ากากผ้า เมื่อออกไปพื้นที่ชุมชน ก็จะลดโอกาสที่จะเกิดการระบาดใหญ่ได้มาก

          จากการศึกษาข้อมูลพบว่า การดำเนินการมาตรการควบคุมโรคที่ล่าช้า จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการควบคุมโรคมากที่สุด โดยพบว่าหากการสอบสวนควบคุมโรคล่าช้าน้อยกว่า 1 วัน หลังพบผู้ป่วย จะมีประสิทธิผลในการควบคุมโรคเหลือร้อยละ79.9 แต่หากล่าช้า 3 วัน ประสิทธิผลเหลือร้อยละ41.8 ซึ่งลดลงมาถึงครึ่ง และหากล่าช้า 7 วัน ประสิทธิผลจะเหลือเพียงร้อยละ4.9 เพราะฉะนั้นการตรวจเจอผู้ติดเชื้อได้เร็ว จะส่งผลโดยตรงต่อการควบคุมโรคไม่ให้ระบาดและแพร่ออกไปในวงกว้าง