นางเมลานี ซาวิลส์ ผอ.แผนกวิจัยประจำกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด(CEPI) เครือข่ายเอ็นจีโอด้านสาธารณสุขฉุกเฉินชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า CEPI ได้จัดตั้งเครือข่ายห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์หรือห้องแล็บทั่วโลก โดยในระยะแรกนี้ CEPI จะตั้งห้องแล็บ 6 แห่งคือในแคนาดา, สหราชอาณาจักร, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์,บังกลาเทศและอินเดีย เพื่อศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งหมดที่จะผลิตมาสู่ตลาดโลก จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ ตลอดถึงบริษัทขายมีข้อมูลมากพอที่จะศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละตัวก่อนตัดสินใจซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดมาใช้รักษาผู้ป่วย หรือจัดจำหน่ายในตลาด นับเป็นองค์กรแรกของโลกที่จะจัดตั้งห้องแล็บในลักษณะนี้ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพวัคซีนแบบตัวต่อตัว
ในปัจจุบัน มีวัคซีนกว่า 320 ตัวทั่วโลกอยู่ระหว่างการวิจัยในระยะต่างๆ แต่มีอยู่ 2-3 บริษัทที่มีความคืบหน้าในการวิจัยวัคซีนมาถึงเฟส 3 หรือ เฟสสุดท้าย เช่น บริษัทไฟเซอร์ และบริษัทโมเดอร์นาของสหรัฐฯ และบริษัทแอสตราเซเนกา บริษัทยาและชีวเภสัชภัณฑ์ของอังกฤษ-สวีเดน ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า พวกเขาจะเสร็จขั้นตอนการวิจัยวัคซีนก่อนสิ้นปีนี้ ทั้งนี้บริษัทวิจัยวัคซีนแต่ละแห่งใช้วิธีการที่แตกต่างกันในการรวบรวมข้อมูลการทดลองและประเมินผล นอกจากนี้ ตัวแปรอื่นๆเช่น สถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัย ตลอดถึงการบรรทุก และสถานที่จัดเก็บวัคซีน ซึ่งจะมีผลต่อคุณภาพของวัคซีนแต่ละตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องประเมินโดยทีมผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
ในปัจจุบัน มีผู้ป่วยสะสม 34,519,817 คนทั่วโลก เสียชีวิตแล้ว 1,028,232 ราย ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดคือ สหรัฐฯ อินเดีย บราซิล รัสเซียและโคลอมเบีย
Cr: Reuters, Investing