นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตได้รับความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นว่าจะเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ หลังจากการประชันวิสัยทัศน์นัดแรกกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าชาวอเมริกันผู้มีสิทธิเลือกตั้งแทบจะไม่ได้รับทราบนโยบายของผู้สมัคร เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์พูดแทรกและขัดจังหวะนายไบเดนและผู้ดำเนินรายการตลอดเวลา
โดยในการสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส พบว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งร้อยละ 51 สนับสนุนนายไบเดน อีกร้อยละ 42 จะลงคะแนนให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่วนที่เหลือยังไม่แน่ใจ
ส่วนผลการสำรวจของซีเอ็นบีซี พบว่า นายไบเดนมีคะแนนนำประธานาธิบดีทรัมป์มากถึง 13 จุด โดยกลุ่มตัวอย่างที่ระบุว่า จะเลือกนายไบเดนมีจำนวนร้อยละ 54 ขณะที่ร้อยละ 41 ระบุว่าจะเลือกประธานาธิบดีทรัมป์ ทั้งกลุ่มตัวอย่างมากถึงร้อยละ 59 ที่ระบุว่านายไบเดนมีความซื่อสัตย์และไว้วางใจได้
ขณะที่ผลการสำรวจของซีเอ็นเอ็น พบว่านายไบเดนคือผู้ชนะการอภิปรายด้วยคะแนนร้อยละ 60
ส่วนซีบีเอส นิวส์ ระบุว่า การประชันวิสัยทัศน์ครั้งนี้ทำให้กลุ่มตัวอย่างสนับสนุนนายไบเดนเพิ่มขึ้นคือจากร้อยละ 32 เป็นร้อยละ 38
อย่างไรก็ตาม จากการประชันวิสัยทัศน์นัดแรกซึ่งเต็มไปด้วยการความวุ่นสายและการโจมตีส่วนบุคคล ทางคณะผู้จัดงานจึงจะเปลี่ยนรูปแบบการประชันวิสัยทัศน์อีก 2 นัดที่เหลือ ซึ่งทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่พอใจ เขาทวีตข้อความว่า เหตุใดจึงต้องเปลี่ยนแปลงกฎสำหรับการประชันวิสัยทัศน์อีก 2 นัด ในเมื่อนัดแรก เขาเป็นฝ่ายชนะอย่างง่ายดาย
....