ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม 2563

01 ตุลาคม 2563, 08:58น.



เริ่มเดือนธ.ค.! เอกชน เสนอรัฐ เปิดรับ นทท.เพิ่ม แบบไม่กักตัว



         ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.กำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประเภทพิเศษ หรือ Special Tourist VISA (STV) เดือนละ 1,200 คน เข้ามาพำนักแบบระยะยาว (ลองสเตย์) เริ่มเดือน ต.ค.นี้



         สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) มองว่าการแง้มประตูเปิดประเทศ ด้วยจำนวนเพียงเท่านี้ ไม่มากพอจะหล่อเลี้ยงผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศ ส่งผลให้ภาคธุรกิจสุ่มเสี่ยงกลับไปปิดกิจการอีกครั้ง (Reclose) โดยเฉพาะกิจการในพื้นที่ที่มีฐานลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติสูง เช่น ภูเก็ต สมุย พัทยา และเชียงใหม่ จึงต้องการให้รัฐบาล พิจารณาผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอย่างจำกัดทันทีหลังเห็นผลการนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยตลอดเดือน ต.ค.



          นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า แอตต้าจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไปจากประเทศหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ ปลอดโควิด-19มากกว่า 60 วันขึ้นไป เช่น จีน และไต้หวัน เข้ามาเที่ยวไทยแบบไม่กักตัว เพราะถ้ายังกำหนดให้มีการกักตัว ไม่มีนักท่องเที่ยวทั่วไปคนไหนอยากมา โดยสามารถใช้มาตรการดูแลอย่างคุมเข้ม กำหนดให้มีการเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น ควบคุมพื้นที่ที่พานักท่องเที่ยวไปเที่ยว และสามารถติดตามตัวได้ นายวิชิต กล่าวว่า เราต้องกล้าเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แบบไม่กักตัว หากเป็นไปได้อยากให้เริ่มตั้งแต่เดือน ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งมีดีมานด์ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าไทย ไม่ต่ำกว่า 100,000 คนต่อเดือน พักราว 5-7 วัน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ต่อเดือน สร้างกระแสการเดินทางที่ดีไปถึงช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนต้นปีหน้า



ภูเก็ต ทดสอบแล็บตรวจโควิด-19

         จ.ภูเก็ต มีการเตรียมพร้อมรับมือนักท่องเที่ยวจากจีนที่จะเดินทางมาลอตแรกวันที่ 8 ต.ค.โดยที่อาคาร X-Terminal ท่าอากาศยานภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตรวจการซักซ้อมขั้นตอนกระบวนการเก็บสิ่งส่งตรวจและปฏิบัติการชีวโมเลกุล ระบบควบคุมความปลอดภัยด้วยแรงดันลบ จากกรมควบคุมโรค สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเตรียมความพร้อมรับผู้โดยสารเดินทางระหว่างประเทศที่จะมาถึงในเดือนตุลาคมนี้



นายณรงค์  อธิบายขั้นตอนการรับมือนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาจ.ภูเก็ต  



-เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง จะได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ซักประวัติ ลงทะเบียน และส่งตัวไปตรวจไวรัสโควิด-19 ที่ห้องเก็บสิ่งส่งตรวจ ซึ่งรองรับการตรวจได้รอบละ 96 ตัวอย่าง ใช้เวลาตรวจทางห้องปฏิบัติการประมาณ 3 ชั่วโมง และทราบผลทันที จากนั้นจะส่งผลตรวจไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คาดว่า รองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณวันละ 500 คน ซึ่งห้องปฏิบัติการได้ตรวจรับรองมาตรฐานโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์



-หลังเก็บตัวอย่างแล้ว รถโรงแรมจะรับนักท่องเที่ยวไปส่งที่พัก ALQ (Alternative Local Quarantine) ซึ่งเป็นสถานกักตัวระดับจังหวัดที่นักท่องเที่ยวเลือกและผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด



เข้ม 10 จังหวัด ซ้อมรับโควิด-19 เมียนมายังแรง

          นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  เปิดเผยว่า ไทยยังจับตาใกล้ชิดสถานการณ์ในเมียนมาที่รุนแรงเพิ่มขึ้น ถ้ายังควบคุมไม่ได้จะมีผลกระทบกับประเทศไทย โดยเฉพาะมีผู้พยายามเข้าเมืองผิดกฎหมายในเมียนมาเข้าออกในไทยต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 10 จังหวัดเขตติดต่อชายแดน อยากให้เตรียมความพร้อม ซักซ้อมรับมือทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน อย่าประมาท แม้ในจุดที่มีสถานการณ์ระบาดในเมียนมา ยังอยู่ห่างชายแดนพอสมควร  



          รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เราต้องช่วยกันสอดส่อง งดนำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าประเทศเด็ดขาด ฝ่ายความมั่นคง ควรร่วมมือตรวจจับกับภาคเอกชน ร่วมมือกับโรงงาน สถานประกอบการ หอพักอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าวหยุดนำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าประเทศ เชื่อมั่นว่าหากทุกคนเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ จะทำให้จัดการกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น ถ้าเรายังมีมาตรการเข้มแข็ง โอกาสที่จะระบาดรอบ 2 ก็ยากขึ้น และมีผู้ป่วยจำนวนน้อย มาตรการควบคุมป้องกันจะช่วยหยุดยั้งการระบาดของโควิด-19 ได้



เอกสารปลอม! ที่ระบุว่า นศ. มธ.ท่าพระจันทร์ ติดเชื้อโควิด-19




          จากเอกสารที่ระบุว่า มีนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ติดเชื้อโรคโควิด-19  มีรายงานข่าวยืนยันว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม เอกสารที่มีการเผยแพร่ลงวันที่ 22 ก.ย. 2563 อ้างว่าเป็น "ประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" เรื่อง "นักศึกษา มธ.ท่าพระจันทร์ ติดเชื้อโควิด 19" จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ได้รับการยืนยันว่า มหาวิทยาลัยไม่มีใครรู้เรื่องดังกล่าวและมหาวิทยาลัยไม่มีการส่งหนังสือเวียน ยืนยันว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม




หนี้ครัวเรือน เจอพิษโควิด-19 เพิ่มสูงสุดในรอบ 18 ปี 83.8 % ต่อจีดีพี



          ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยไตรมาส 2 มีมากกว่า 13.58 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 83.8 ต่อจีดีพี เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก ที่มีมากกว่า 13.49 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 80.2 ต่อจีดีพี  นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า การที่สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นมากมาจากจีดีพีที่หดตัวสูงเป็นสำคัญ สำหรับยอดเงินต้นแม้ว่าจะเพิ่มขึ้นแต่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อย โดยยอดเงินต้นที่ยังไม่ลดลงส่วนหนึ่งมาจากมาตรการพักชำระหนี้



          ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า จากข้อมูลหนี้ครัวเรือนในไตรมาส 2 สะท้อนว่า ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนของไทย ขยับขึ้นสวนทางเศรษฐกิจที่หดตัวจากผลของโควิด-19 ทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนของไทยเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 ปีครั้งใหม่ที่ร้อยละ 83.8 ต่อจีดีพี



          ทิศทางหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนภาพ 2 ด้าน ซึ่งแตกต่างกัน ขณะที่ประชาชนและครัวเรือนบางกลุ่มก่อหนี้เพิ่มขึ้น แต่ประชาชนและครัวเรือนอีกหลายกลุ่มต้องรับมือกับปัญหาขาดสภาพคล่องและต้องการมาตรการช่วยเหลือจากสถาบันการเงิน




 

ข่าวทั้งหมด

X