ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันพุธที่ 30 กันยายน 2563

30 กันยายน 2563, 08:50น.


‘ไบเดน’ เปิดหลักฐานการเสียภาษี ปี 62 ตอกกลับ ‘ทรัมป์’ เลี่ยงภาษี  



          การประชันวิสัยทัศน์นัดแรกของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะตัวแทนพรรครีพับลิกัน กับนายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อเวลา 08.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ทั้ง 2 คน จะใช้เวลา 90 นาที ในการกล่าวถึง 6 ประเด็น ได้แก่ ประวัติของทั้ง 2 คน, ศาลฎีกาสหรัฐฯ, โควิด-19, เศรษฐกิจ, ปัญหาเชื้อชาติและความรุนแรงในเมืองต่างๆ, และความโปร่งใสในการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีทรัมป์ เดินทางถึงเมืองคลีฟแลนด์ด้วยเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ขณะที่นายไบเดน เดินทางมาจากรัฐเดลาแวร์



         ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะมีการประชันวิสัยทัศน์ นายไบเดน และนางกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่างเปิดเผยการเสียภาษีในปี 2562 หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์และนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯถูกสื่อในสหรัฐฯ รายงานว่ามีการตกแต่งบัญชีเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ทั้งมีการเก็บบันทึกทางการเงินส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ  นายไบเดนและนางจิล ไบเดน ภรรยา จ่ายภาษีของรัฐบาลกลางและเงินอื่น ๆ มากกว่า 346,000 เหรียญสหรัฐฯ จากรายได้เกือบ 985,000 เหรียญสหรัฐฯ และขอเงินคืนเกือบ 47,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนที่จ่ายเกินไป  ส่วนนางแฮร์ริสกับนายดั๊ก เอมฮอฟฟ์ สามี เปิดเผยว่าเสียภาษีประมาณ 1,200,000 เหรียญสหรัฐฯ จากเงินรายได้ 3,300,000 เหรียญสหรัฐฯ  




ผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์ ชี้แจง ปรับปรุงเรื่องด่วน 7 ข้อ



         ปัญหาการบริหารงานของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ผู้ปกครองไม่พอใจที่ผู้บริหารของโรงเรียนแก้ปัญหาไม่ได้ และต้องการให้ดำเนินคดีกับครูและพี่เลี้ยงที่มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายเด็ก เนื่องจากโรงเรียนไม่ได้เตรียมเอกสารมาชี้แจง ไม่มีข้อมูลเรื่องการเยียวยาเด็ก รวมถึงใบประกอบวิชาชีพครูและเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง น.ส.วริศนันท์ เดชปานประสงค์ กรรมการบริหารโรงเรียนในเครือสารสาสน์ กล่าวว่า มาตรการเยียวยาสำหรับนักเรียนที่ผู้ปกครองประสงค์ให้เรียนต่อโรงเรียนจะดำเนินการได้ทันทีภายใน 10 วัน



1.ผู้ปกครองสามารถเข้าถึงกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ในชั้นเรียน และในมุมต่างๆ ของโรงเรียน รวมถึงบริเวณห้องนอน และทางเดินเข้าห้องน้ำ โดยต้องได้รับความยินยอมของผู้ปกครองในระดับชั้นนั้น



2.แจ้งมาตรการแนวทางการแก้ไขปัญหา ปรับปรุง โดยมีนักจิตวิทยาจากกระทรวงสาธารณสุข เข้ามาเยียวยาจิตใจนักเรียน และผู้ปกครอง และจะประเมินระดับจิตวิทยาทุกๆ 6 เดือน



3.จัดการตรวจสอบ และแก้ไขปรับปรุงคุณภาพอาหารกลางวันให้เหมาะสม และเป็นไปตามตารางที่ได้แจ้งกับผู้ปกครอง รวมถึงระยะเวลาในการทานอาหารปรับเป็น 40 นาที

4.โรงเรียนจะปรับปรุงเรื่องความสะอาดในห้องน้ำ ห้องเรียน และอุปกรณ์การเรียนการสอน และระบบสาธารณูปโภคทั้งหมดโดยด่วน และผู้ปกครองมีสิทธิตรวจสอบโดยแจ้งผ่านครูประจำชั้น



5.โรงเรียนจะช่วยตรวจสอบมาตรฐานของรถโรงเรียน เช่น จำนวนนักเรียนต่อรถ 1 คัน เพราะผู้ปกครองแจ้งว่าเด็กต้องยืนตลอดทาง เรื่องความปลอดภัยในการขับขี่



6.เรื่องการทานน้ำและไปห้องน้ำของเด็ก ตอนนี้มีนักเรียนกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และท้องผูก เนื่องจากดื่มน้ำน้อยควรจัดเวลาในการกินน้ำและเข้าห้องน้ำให้เหมาะสมทุกๆ 2 ชั่วโมง



7.จัดให้ประชุมผู้ปกครองทุกๆ ปีการศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันทุกชั้นเรียน



รมช.ศธ.นัดประชุมสรุปแนวทางเยียวยาเด็ก-ผู้ปกครอง



          นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ นัดประชุมสรุปแนวทางเยียวยาเด็กและผู้ปกครองอีกครั้งในเช้านี้ที่กระทรวงศึกษาธิการและสั่งการให้ผู้มีอำนาจบริหารงานตัวจริงของโรงเรียนชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาด้วย ทั้งเรื่องการนำคนที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูมาสอนนักเรียน เรื่องที่ผู้ปกครองขอย้ายโรงเรียน ข้อเสนอคืนค่าเทอมทั้งหมดที่จ่ายไปและการเยียวยาเด็กๆที่ถูกทำร้ายด้วย ซึ่งเมื่อรับฟังแนวทางจะสรุปรายละเอียดอีกครั้งและจะมีการแจ้งความเพิ่มเติม  



ตำรวจ เร่งตรวจกล้องวงจรปิดทุกตัว-ทุกห้อง



          พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชระมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยว่า ได้แจ้ง 2 ข้อกล่าวหากับ น.ส.อรอุมา หรือ พี่เลี้ยงจุ๋ม ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ครู ยังต้องรอสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหานี้ได้ และยังต้องแยกดำเนินคดีกับน.ส.อรอุมา อีก 8 คดี ตามที่มีหลักฐานชัดเจนจากผู้ปกครองที่ได้เดินทางมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับน.ส.อรอุมาทั้ง 8 ราย เป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน



         ทั้งนี้ จะต้องตรวจกล้องวงจรปิดทั้ง 9 ห้อง ซึ่งห้องที่เกิดเหตุคือห้อง E ซึ่งยังมีอีก 8 ห้องที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบครูผู้กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นน.ส.อรอุมาหรือครูคนอื่น จะแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทุกราย



         ด้าน พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายมาจาก ผบช.ภ.1 ให้มาดูแลสำนวนคดีนี้ ได้เรียกประชุมและได้กำหนดการดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดประการที่ 1 คือให้ย้อนดูกล้องวงจรปิดทุกกล้อง ดูให้ครบทุกห้องเรียนว่ามีการกระทำความผิดอะไรที่เกี่ยวข้องกับเด็กบ้างหากมีการกระทำเกี่ยวกับเด็กไม่ว่าครูคนใดจะดำเนินคดีตามความผิดเบื้องต้น 2 ข้อหาคือ การทำร้ายร่างกายจนเกิดเหตุทำให้ได้รับอันตรายทั้งกายและจิตใจและฐานกระทำหรือละเว้นกระทำที่ส่งผลต่อเด็ก ซึ่งจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามกล้องวงจรปิดที่ย้อนดูอย่างไรก็ตามจะให้ความ



ภาพจากกล้อง พบ 3 วัน ทำร้ายเด็ก 24 ครั้ง



          รายงานระบุว่า พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ระดมทีมตำรวจสืบสวน ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียนที่อายัดมาเพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดี น.ส.อรอุมา ทำร้ายร่างกายนักเรียนอนุบาล 1 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าวันที่ 21 ก.ย. น.ส.อรอุมา ทำร้ายเด็ก 7 ครั้ง วันที่ 22 ก.ย. 2 ครั้ง และที่น่าตกใจมากคือวันที่ 23 ก.ย.ทำร้ายเด็กมากสุดถึง 15 ครั้ง รวม 3 วัน ทำร้ายเด็กรวม 24 ครั้ง



          หลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ได้นำตัว น.ส.อรอุมา และ และครูเปิ้ล ของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ส่งฟ้องศาลแขวงนนทบุรีๆพิจารณาแล้วให้ยกคำร้องเหตุเพราะผู้ต้องหาทั้งสองคนเดินทางเข้ามาแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนก่อนจะออกหมายเรียกและไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางเงินประกันตัวไปคนละ 60,000 บาท



ศาล สั่งปรับ “นายมาร์วิน”ชาวฟิลิปปินส์ ทำงานไม่มีใบอนุญาต



          พนักงานอัยการศาลแขวงนนทบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายมาร์วิน ลิวานัก โอเรโฮล่า ชาวฟิลิปปินส์วัย 25 ปี ครูที่กระชากแขนเด็กอนุบาลในห้องน.ส.อรอุมา ข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 มาตรา 8, 101 วรรคหนึ่ง ปรับ 10,000 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 5,000 บาท



          เมื่อวันที่ 26 ม.ค. นายมาร์วิน เดินทางเข้าประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว จากนั้นกลับประเทศไม่ได้เพราะโควิด-19 ระบาด จึงได้ยื่นเรื่องขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 ต.ค.โดยเรื่องยังรออนุมัติ ระหว่างนี้นายมาร์วินได้ไปสมัครเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เริ่มทดลองงานเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ได้ค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งว่าอยู่ระหว่างทดลองงานจึงไม่มีหนังสือสัญญาว่าจ้าง



          พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า หลังจากตรวจสอบแล้ว นายมาร์วิน พักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงต้องดำเนินคดีตามขั้นตอน ที่ผ่านมาทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ตรวจสอบครูชาวต่างชาติที่สอนภาษาตามโรงเรียนต่างๆ ว่ามีการขอเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง และทำเรื่องขออยู่ในราชอาณาจักรอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งมีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วหลายคน แต่ก็กำชับให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้ใช้หลักนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ควบคู่กันไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย จึงไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ จึงมีการอนุโลมให้พักอาศัยในราชอาณาจักรไปก่อน ตามมติ ครม. อีกทั้งครูสอนภาษาชาวต่างชาติยังเป็นที่ต้องการของโรงเรียนต่างๆ จึงจำเป็นต้องให้มีครูชาวต่างชาติสอนเด็กนักเรียนอย่างต่อเนื่อง พร้อมฝากให้สถานศึกษาต่างๆ สอดส่องดูแลครูชาวต่างชาติให้ดำเนินการเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง อีกทั้งต้องคำนึงถึงคุณภาพ และคุณวุฒิของครูชาวต่างชาติเป็นหลัก



ตั้งกก.สอบโรงเรียนเครือสารสาสน์ 34 แห่ง



          นายอรรถพล  ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 12 คน ตรวจสอบโรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้ง 34 แห่งที่ได้รับการร้องเรียน เริ่มจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์เป็นแห่งแรก และต่อไปนี้ สช.จะปิดช่องว่างทั้งหมด มีมาตรการบังคับให้โรงเรียนเอกชนทุกแห่ง ติดประกาศพร้อมกับภาพถ่าย ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู วันหมดอายุ หน้าห้องเรียนทุกห้อง เพื่อให้ผู้ปกครองมั่นใจในโรงเรียนเอกชน




          จากการตรวจสอบพบว่าโรงเรียนแห่งนี้มีปัญหาหลายอย่าง เช่น เก็บค่าธรรมเนียมการเรียน ตามระเบียบที่ สช.กำหนดระดับอนุบาล อัตราการเก็บต่อปีไม่เกิน 80,000 บาท หรือภาคเรียนละไม่เกิน 40,000 บาท รวมทั้งค่าใช้จ่าย ค่าอาหารกลางวัน ค่าตรวจสุขภาพนักเรียน ค่าตรวจสารเสพติด ค่าประกันอุบัติเหตุ ค่าเรียนว่ายน้ำ ค่าเรียนดนตรี ค่าห้องเรียนปรับอากาศ เป็นต้น รายการเหล่านี้กำหนดให้รวมค่าเทอม ไม่แยกเก็บต่างหาก ดังนั้น หากผู้ปกครองพบว่าโรงเรียนเรียกเก็บเกิน 80,000 บาท โรงเรียนรับปากจะคืนเงินส่วนเกินทั้งหมดให้ผู้ปกครอง สำหรับจำนวนนักเรียนต่อห้องที่ สช.กำหนดไว้ไม่เกิน 25 คนต่อห้อง แต่โรงเรียนรับ 34 คนต่อห้อง ต้องแก้ไขภายใน 15 วัน

ข่าวทั้งหมด

X