คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการคนละครึ่ง โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ไม่รวมสลากกินเเบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบและบริการต่างๆ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายละเอียดว่า
-ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ต้องมีอายุ 18 ปี ขึ้นไป ไม่เกิน 10 ล้านคน ได้รับการจัดสรรเงินไม่เกินคนละ 150 บาทต่อวัน หรือสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ตลอดระยะโครงการ
-ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ สำหรับประชาชน เเละแอปพลิเคชั่นถุงเงิน สำหรับร้านค้า
โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 รวมวงเงินโครงการนี้ 30,000 ล้านบาท คาดว่าจะลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนและสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยอย่างน้อย 100,000 ร้านค้า คาดว่า จะทำให้เงินหมุนเวียนในระบบ 60,000 ล้านบาท และจะทำให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ขยายตัวร้อยละ 0.18
แฟ้มภาพ