ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันอังคารที่ 29 กันยายน 2563

29 กันยายน 2563, 13:52น.



รวบกลุ่มคนไทย 19 คน ลักลอบข้ามแดนกลับจากเมียนมา หนีตายโควิด-19 ระบาดฝั่งเมืองเมียวดี




         เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถกระบะ 2 คัน บริเวณถนนสายแม่สอด-บ้านไร่ดอนชัย ติดริมแม่น้ำเมย ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบคนไทย 19 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระอัดแน่นอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจวัดไข้และส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจาก พบว่าทั้งหมดลักลอบข้ามชายแดนไทย-เมียนมา อย่างผิดกฎหมาย



         จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ยอมรับว่า เมื่อช่วงต้นปี ข้ามแนวชายแดนไปเมียนมา โดยมีนายหน้าช่วยเหลือพาไปทำงานในบ่อนพนัน ฝั่งจังหวัดเมียวดี แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จังหวัดเมียวดี มีการระบาดของโควิด-19 มีผู้เสียชีวิตหลายราย และมีการปิดหมู่บ้านหลายแห่งรวมทั้งหลายรัฐมียอดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอย่างต่อเนื่อง จึงตัดสินใจหนีตายจากฝั่งเมียวดีกลับไทย โดยจ้างนายหน้าพาเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ




"เวิลด์แบงก์"หวั่นโควิด-19 ระบาดซ้ำ ฉุดเศรษฐกิจไทยปีนี้ติดลบ 10.4%



         นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ ติดลบร้อยละ 8.3 ส่วนปีหน้า ขยายตัวร้อยละ 4.9 ประเมินว่าการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยจะใช้เวลาช้ากว่า 2 ปี ถึงจะกลับมาสู่ฐานเดิมก่อนเกิดโควิด-19 เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รุนแรงในไตรมาส 2 และได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมือง มาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้ได้รับผลกระทบทางด้านแรงงานนอกระบบ และแรงงานในภาคท่องเที่ยวสูง รายงานฉบับนี้ได้ประเมินเศรษฐกิจไทยในกรณีย่ำแย่ที่สุด คาดว่า ปีนี้จะติดลบสูงถึงร้อยละ 10.4 และในปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 3.5 โดยมีปัจจัยว่าเศรษฐกิจไทยจะใช้เวลามากกว่า 3 ปีกว่าจะกลับเข้าสู่ฐานก่อนโควิด-19 สะท้อนความเสี่ยงจากโควิด-19 จะกลับมาระบาดรอบ 2 และโควิด-19 ต่างประเทศที่ยังมีจำนวนมาก จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย



        นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงไตรมาส 2 และเรื่องสุดท้ายไทยได้ใช้นโยบายจากมาตรการด้านการเงินมามากกว่าร้อยละ 13 ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากและขนาดนโยบายเกือบมากที่สุดในภูมิภาค เพราะไทยยังมีพื้นที่เหลือในการทำนโยบาย ส่วนความท้าทายคือจากนี้จะทำอย่างไรที่จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยได้



        ขณะเดียวกัน ยังต้องติดตามการดำเนินนโยบายการลงทุนภาครัฐที่มีความล่าช้า ซึ่งจะทำอย่างไรให้การดำเนินนโยบายเดินไปข้างหน้าและต้องมีความต่อเนื่อง ขณะที่ไทยยังมีความเสี่ยงสถานการณ์การเมืองมีความไม่แน่นอน ทั้งทีมเศรษฐกิจ คณะรัฐมนตรี(ครม.) การประท้วงต่าง ๆ ยิ่งส่งผลให้บรรยากาศหรือความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่ำลง ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าได้อีก



        ธนาคารโลก ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ ออกรายงานฉบับปรับปรุงเมื่อวันจันทร์ว่า ปีนี้เศรษฐกิจภูมิภาคนี้น่าจะเติบโตเพียงร้อยละ 0.9 แยกเป็นจีนที่น่าจะเติบโตได้ร้อยละ 2 เพราะการใช้จ่ายภาครัฐ การส่งออกแข็งแกร่ง และอัตราการติดโรคโควิด-19 ต่ำมาตั้งแต่เดือนมี.ค. ขณะที่ เอเชียตะวันออกและแปซิฟิกที่เหลือทั้งหมดจะหดตัวร้อยละ 3.5 มาตรการจำกัดการแพร่ระบาดทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศถูกจำกัดอย่างมาก และถูกซ้ำเติมจากเศรษฐกิจโลกถดถอยเพราะการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เนื่องจากภูมิภาคนี้พึ่งพาการค้าและการท่องเที่ยวเป็นหลัก



        รายงานของธนาคารโลก แนะนำว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก อาจต้องปฏิรูปการคลังเพื่อระดมรายได้สำหรับรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเงินจากการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันโครงการคุ้มครองทางสังคมจะช่วยให้คนกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อีกครั้ง ประเทศที่มีโครงการแบบนี้และมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีตั้งแต่ก่อนเกิดโรคโควิด-19 สามารถฟื้นตัวในเร็วตั้งแต่ช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาด รายงานของธนาคารโลก คาดการณ์ว่า โรคโควิด-19 จะทำให้คนยากจนในภูมิภาคนี้ที่ยังชีพด้วยรายได้วันละ 5.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 174 บาท) เพิ่มขึ้น 33 ล้านคนเป็น 38 ล้านคน เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 20 ปี



พี่เลี้ยงเด็กทำร้ายร่างกายเด็กอนุบาล มอบตัวแล้ว  



        น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง เข้าพบ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 หลังจากที่ผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดีที่สภ.ชัยพฤกษ์ เรื่องการทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนอนุบาลโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จนทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าไปโรงเรียน ขณะที่ ผู้ปกครองสงสัยว่าทำไมบุตรหลานมีบาดแผลฟกช้ำ อีกทั้งยังละเมอ ผวากลางดึก จึงรวมตัวกันไปขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องเรียนจนพบความจริงว่ามีการกระทำทารุณกรรมเด็กรูปแบบต่างๆ



        ขณะที่ พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.จ.นนทบุรี กล่าวว่า ได้แจ้งข้อหาน.ส.อรอุมา 2 ข้อหา คือทำร้ายร่างกายผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และยังต้องมีการแยกดำเนินคดีอีก 8 คดี ตามที่มีผู้ปกครองเข้าแจ้งความ 2 ราย ต่างกรรมต่างวาระ



ศาลอาญา ยกฟ้อง คดีนางมณตา หญิงไก่ค้ามนุษย์ 



         ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พิพากษายกฟ้องคดีหญิงไก่ค้ามนุษย์ คดีนี้ พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องนางมณตา หยกรัตนกาญ  หรือหญิงไก่ เป็นจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 หลังหลอกหญิงสัญชาติ สปป.ลาว มาทำงานเป็นแม่บ้านแล้วบังคับใช้แรงงาน โดยศาลได้อ่านคำพิพากษา ให้จำเลยฟังในระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปทัณฑสถานหญิงกลาง




         ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ผู้เสียหายสัญชาติ สปป. ลาว เดินทางกลับประเทศเพื่อทำหนังสือเดินทาง ก่อนเดินทางกลับมาทำงานกับจำเลยอีก โดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และช่วงที่อาศัยอยู่กับจำเลยภายในคอนโด ย่านประชานิเวศน์  จำเลยได้ให้เงินใช้ พาไปเที่ยวต่างจังหวัด ตามที่จำเลยได้กล่าวอ้างว่ามีความรักและผูกพันกับผู้เสียหาย ขณะที่ การทำงานให้กับจำเลยเป็นการทำความสะอาดที่พัก ซึ่งมีคนงานอื่นอีกหลายคนร่วมด้วย ทำให้เชื่อว่า ไม่เป็นลักษณะงานที่หนัก ส่วนการที่จำเลยเก็บหนังสือเดินทางของผู้เสียหายไว้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เป็นการช่วยดูแลเอกสารสำคัญของชาวต่างชาติไม่ให้สูญหาย เห็นว่าจำเลยไม่ได้มีพฤติการณ์บังคับใช้แรงงานในลักษณะการค้ามนุษย์ จึงพิพากษายกฟ้องจำเลย



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X