ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันอังคารที่ 29 กันยายน 2563

29 กันยายน 2563, 09:20น.


คลัง พบสัญญาณเศรษฐกิจ ส.ค. ดีขึ้น ลุ้นสองนโยบายช่วยเติมเงินในระบบ



          นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือนส.ค.ชะลอตัวแต่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบจากเดือนก.ค.จากหลายสาขาทั้งด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การส่งออกสินค้า และการบริโภคภาคเอกชน เนื่องจากหลายปัจจัยปรับตัวดีขึ้น การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเดือนก.ค.จากที่หดตัวร้อยละ 11.6  หดตัวลดลงมาที่ร้อยละ 3.8 ยอดจำหน่ายรถกระบะปรับตัวดีขึ้น จากที่หดตัวร้อยละ 15 เป็นหดตัวร้อยละ 3.1  รถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่จากหดตัวร้อยละ 5.8 เป็นหดตัวร้อยละ 2.5 ต่อปี รายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันร้อยละ 9.2 ต่อปี หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น  คาดการณ์ว่าจีดีพีไตรมาส 3 จะขยับขึ้นจากไตรมาส 2 ซึ่งหดตัวร้อยละ 12.2 เมื่อปัจจัยเปลี่ยนไปอาจต้องปรับคาดการณ์ทั้งปีจากหดตัวร้อยละ 8.2 ในปี 2563 และขยายตัวร้อยละ 4-5 ในปี 2564 และลุ้นการออกมาตรการใช้จ่ายคนละครึ่งของรัฐบาลในการช่วยค่าใช้จ่าย 3,000 บาท และเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายช่วงปลายปี  



CR:กระทรวงการคลัง



1 ต.ค.นายกฯ ลงพื้นที่ EEC ติดตามความคืบหน้าการลงทุนแหลมฉบังเฟส 3



          การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีความคืบหน้าหลายโครงการ โดยโครงการที่ลงนามแล้ว คือ 1.รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) 2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก 3.โครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ขณะที่โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 อยู่ในขั้นตอนเตรียมประกาศผู้ชนะประมูลการร่วมลงทุน และโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภาของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับการยืนยันว่าจะอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ



          นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 1 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะเดินทางลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ติดตามความคืบหน้าโครงการคมนาคมในเขตพื้นที่อีอีซี การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เป็นโครงการขนาดใหญ่ของอีอีซีที่ยังเหลืออีก 1 โครงการที่ยังรอขั้นตอนการนำรายชื่อการชนะการประมูลเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้งประชุมร่วมกับผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบังและภาคเอกชน เพื่อหารือการใช้ประโยชน์การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังในโครงการต่างๆ ได้แก่ ท่าเรือบก (Dry Port) โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เป็นผู้นำเสนอโครงการ 



         สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้มีการศึกษาแผนพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) นำไปสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค รวมทั้งสนับสนุนการขนส่งทางรางที่อนาคตจะเป็นระบบโลจิสติกส์หลักของประเทศที่สำคัญ เพื่อส่งเสริมการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือแหลมฉบังและอีอีซี โดยมีการศึกษาพื้นที่ 4 พื้นที่ ได้แก่ จ.ฉะเชิงเทรา, อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา, อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และ อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ รวมทั้ง มีการประเมินว่าวงเงินลงทุนท่าเรือบกทั้ง 4 แห่ง คาดว่าจะอยู่ที่กว่า 10,000 ล้านบาท



          สำหรับเป้าหมายการพัฒนาท่าเรือบก สนข.ประเมินว่า จะช่วยเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรางเข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบังให้มีมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ราวร้อยละ 5.5 ของการขนส่งทั้งหมด จะเพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 30 ของการขนส่งทั้งหมด ภายในปี 2566 -2567 โดยหน้าที่หลักของท่าเรือบก จะตรวจปล่อยสินค้าเหมือนท่าเรือ 



ธปท.ชี้แจง ธนาคารไม่หยุด 19-20 พ.ย. คงวันหยุดชดเชย 7 ธ.ค. เพิ่มเติมวันที่ 11 ธ.ค.อีก 1 วัน



         ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) แจ้งเรื่อง กำหนดวันหยุดทำการของสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจเป็นกรณีพิเศษ ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ให้เพิ่มวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวภายในประเทศ ธปท.พิจารณาแล้วเห็นสมควรให้สถาบันการเงินดำเนินการตามปกติในวันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ย. และวันศุกร์ที่ 20 พ.ย. และคงวันหยุด ชดเชยวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค. ตามกำหนดการเดิม เพื่อไม่เพิ่มภาระต้นทุนกับภาคธุรกิจมากจนเกินไปและไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกรรมทางการเงินที่ได้ตกลงชำระราคาหรือจัดสรรเงินตามกำหนดวันหยุดเดิมไว้ล่วงหน้าแล้ว



        อย่างไรก็ตาม เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลให้มีวันหยุดยาวสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ ธปท.เห็นสมควรให้เพิ่มวันหยุดทำการของสถาบันการเงินเป็นกรณีพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค. อย่างไรก็ตาม หน้าเว็บไซต์ของธปท.ระบุว่า รอการประกาศในราชกิจจานุเบกษา 



https://www.bot.or.th/Thai/FinancialInstitutions/FIholiday/Pages/2020.aspx




คดีชิงทอง 6 ล้าน ในห้างย่านวังหิน คาดคนร้ายเป็นชายต่างด้าว หลบหนีไปจังหวัดภาคอีสาน 




          การติดตามคนร้ายชิงทองน้ำหนัก 200 บาท ประมาณ 6,000,000 บาท ร้านทองเยาวราช ห้างโลตัส สาขาวังหิน ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจค้นอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งภายในซอยพหลโยธิน 34  คาดว่า เป็นที่พักของคนร้ายเพื่อเก็บหลักฐานบางส่วนภายในห้องพัก จากการสอบถามผู้ดูแลอพาร์ทเม้นท์ ให้ข้อมูลว่า ห้องที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ก่อนหน้านี้เคยมีชายหญิงคู่หนึ่งพักอาศัยอยู่ แต่หลังจากเกิดเหตุก็ไม่เห็นทั้งสองคนอีกเลยจนตำรวจมาขอตรวจค้น ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเดินทางไปที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อหลบออกต่างจังหวัด คาดว่าปลายทางจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ



         พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (รอง ผบช.กมค.) เป็นประธานการประชุมคอนเฟอเรนซ์ จากศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ไปที่สน.โชคชัย ซึ่งจากการสอบถามตำรวจ สน.โชคชัย รายงานว่า คดีมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านทองไปจนถึงสถานที่อพาร์ทเม้นท์จนพบรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ คราบเลือดคนร้ายและเสื้อแจ็คเก็ต ซึ่งพยานหลักฐานตรงนี้สามารถยืนยันได้ว่าเป็นคนร้ายตัวจริงอย่างแน่นอน



         อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้มีการนำแผนประทุษกรรมคนร้ายในคดีชิงทรัพย์ร้านทองในห้างสรรพสินค้าย่านพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2562 มาทำการตรวจสอบด้วย โดยคนร้ายได้ทองรูปพรรณน้ำหนักรวมกว่า 200 บาท มูลค่าประมาณ 4,000,000 บาท เกิดขึ้นในเขตพื้นที่สน.ทองหล่อ ทั้งนี้มีการเปรียบเทียบการแต่งกายที่คนร้ายอำพรางนั้นมีลักษณะคล้ายกันมาก โดยเฉพาะการสวมวิกผมยาวและใช้หน้ากากอนามัยปิดบังอำพรางใบหน้า สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงขายาว และสวมใส่รองเท้าผ้าใบสีเข้มพื้นสีขาวเข้ามาก่อเหตุ ตลอดจนยังมีแนวทางการสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายรายนี้เป็นชายชาวต่างด้าวเหมือนกันด้วย



         ด้านพล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4  เรียกชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ประชุมเร่งคลี่คลายคดี ตำรวจได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 9 ปาก เบื้องต้น พบว่า มีทรัพย์สินซึ่งเป็นทองรูปพรรณสูญหายไป 216 บาท  ทางร้านทำประกันไว้ โดยตำรวจจะสอบรายละเอียดอีกครั้งถึงยอดทองที่หายไป ส่วนทางคดี ชุดสืบสวนสอบสวน ได้ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานทั้งก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ และบุคคลที่ให้การช่วยเหลือคนร้ายโดยมีการนำคดีคนร้ายแต่งกายเป็นหญิง พร้อมตรวจสอบพฤติกรรมของคนร้ายที่ดูเหมือนมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธปืนและยุทธวิธีในการยับยั้งไม่ให้บุคคลอื่นเข้าใกล้ขณะก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่หรือไม่กำลังตรวจสอบควบคู่กันไป



         พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย ระบุว่า มีการสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 30 ปาก ตำรวจจะมีการพิจารณาว่าพยานรายใดมีน้ำหนัก จะนำเข้ามาในสำนวนการสอบสวน ยืนยันที่ผ่านมา ตำรวจตรวจตราและเฝ้าระวังเหตุรวมทั้งเข้าไปพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านทองมาโดยตลอด ซึ่งผู้ประกอบการบางรายให้ความร่วมมือ แต่บางรายไม่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะร้านที่อยู่ภายในห้าง เพราะเกรงว่าหากติดลูกกรงจะทำให้เสียทัศนียภาพและร้านทองคิดว่าร้านทำประกันจึงไม่กลัวว่าจะมีคนร้ายมาก่อเหตุ



 

ข่าวทั้งหมด

X