การซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯจะผันผวนในสัปดาห์นี้ จากปัจจัยดีเบตรอบแรกระหว่างคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับรีกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต นักวิเคราะห์ ระบุว่าหากนายทรัมป์มีคะแนนนำในการดีเบตครั้งแรกจะส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเชื้อเพลิงและบริษัทผลิตอาวุธปรับตัวดีขึ้น แต่หากนายไบเดนมีคะแนนนำในการดีเบต จะทำให้หุ้นในกลุ่มที่มีการค้าทั่วโลก และกลุ่มพลังงานหมุนเวียนปรับตัวขึ้น
ยังมีการคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทรุดตัวลง หากนายไบเดนคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 3 พ.ย. แต่ตลาดจะขานรับชัยชนะของนายทรัมป์ จากการที่นายไบเดนมีนโยบายเพิ่มภาษีคนรวยเพื่อช่วยคนจน โดยเขาจะยกเลิกมาตรการปรับลดอัตราภาษีของนายทรัมป์ ด้วยการปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับร้อยละ 28 จากเดิมที่นายทรัมป์ปรับลดลงจากร้อยละ35 สู่ระดับร้อยละ21 ในปัจจุบัน
ส่วนนายไบเดนจะปรับเพิ่มภาษีของครัวเรือนที่มีรายได้มากกว่า 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี โดยมีการคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวจะช่วยให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในเวลา 10 ปี ขณะที่นายไบเดนเปิดเผยว่าเขาจะเพิ่มการลดหย่อนภาษีสำหรับชนชั้นกลางและให้เงินอุดหนุนภาษีสำหรับการเลี้ยงดูบุตรมากขึ้น
การดีเบตในสัปดาห์นี้จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับเช้าวันพุธ เวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย โดยจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกผ่านทางสถานีโทรทัศน์ CNN และการดีเบตจะใช้เวลารวม 90 นาที ซึ่งผู้เข้าดีเบตจะต้องแสดงวิสัยทัศน์ใน 6 หัวข้อ ได้แก่ ประวัติของนายทรัมป์และนายไบเดน, ศาลฏีกาสหรัฐฯ, โควิด-19, เศรษฐกิจ, เชื้อชาติและความรุนแรงในเมืองต่างๆของสหรัฐฯ รวมทั้งความบริสุทธิ์ยุติธรรมของการเลือกตั้ง โดยแต่ละหัวข้อจะใช้เวลาอภิปราย 15 นาที
ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า นายทรัมป์เสียเปรียบนายไบเดนทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ย่ำแย่ และเรื่องโควิด-19 ที่ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูเหมือนนายทรัมป์ก็รู้ตัวว่าเพลี่ยงพล้ำในประเด็นเหล่านี้
สำหรับการดีเบตรอบแรกนี้ ตัวแทนของนายทรัมป์และนายไบเดนเห็นพ้องกันว่าผู้อภิปรายทั้งสองจะไม่มีการจับมือทักทายกันก่อนการดีเบตตามธรรมเนียมปฏิบัติแต่อย่างใด อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ รวมทั้งจะไม่มีการเอาข้อศอกชนกันด้วย ส่วนการยืนบนเวทีนั้น ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า นายทรัมป์จะใช้โพเดียมฝั่งขวาของเวที ส่วนนายไบเดนจะใช้โพเดียมฝั่งซ้าย และผู้เข้าชมการดีเบตจะถูกจำกัดเหลือเพียง 60-70 คน จากเดิมที่มีจำนวน 900-1,200 คน และทุกคนจะต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ
ขณะนี้ผลสำรวจของสำนักโพลล์ต่างๆล้วนชี้ว่านายไบเดนกำลังมีคะแนนนำนายทรัมป์ แต่การที่สหรัฐฯตัดสินผู้ชนะจากคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) ไม่ใช่คะแนนดิบจากผู้ลงคะแนนทั่วประเทศ (popular vote) ก็อาจทำให้นายทรัมป์สร้างปาฏิหาริย์ได้อีกครั้งเหมือนที่เคยทำไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว