เปิดหลักเกณฑ์ มาตรการผ่อนคลายระยะที่1-2 ดึงต่างชาติเข้าไทย ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

28 กันยายน 2563, 17:55น.


          หลังที่ประชุม ศบค. รับทราบและเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายให้กลุ่มชาวต่างชาติที่มีศักยภาพและประสงค์จะพำนักในประเทศไทย ระยะกลางและระยะยาว รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจที่ขอเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอนั้น มีรายละเอียดแบ่งเป็น



1.มาตรการผ่อนคลาย ระยะที่ 1 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.2563 ได้แก่



          กลุ่มที่ 1 ผู้ถือการตรวจลงตรา (วีซ่า) แบบ Non-Immigrant "O-A" สำหรับชาวต่างชาติที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเข้ามาเพื่อพักผ่อนโดยไม่ประสงค์ประกอบอาชีพ พำนักในไทยได้ 1 ปี ต้องแสดงสำเนาบัญชีเงินฝาก (Bank Statement) ของธนาคารในประเทศไทย และมีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 800,000 บาท



          กลุ่มที่ 2 ผู้ถือวีซ่าแบบ Non-Immigrant "O-X" พำนักระยะยาว 5 ปี สำหรับชาวต่างชาติที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีสัญชาติและถือหนังสือเดินทางของ 14 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร แคนาดา หรือสหรัฐอเมริกา ต้องแสดงสำเนาบัญชีเงินฝากในธนาคารในไทย และมีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 3,000,000บาท



          ผู้ที่อยู่ใน 2 กลุ่มนี้ จะต้องไม่มีประวัติที่เป็นภัยต่อความมั่นคงทั้งต่อไทยและประเทศที่ตัวเองมีสัญชาติ หรือมีถิ่นพำนักถาวร รวมถึงไม่เป็นโรคต้องห้ามตามกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 14  ต้องมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพของไทยคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่พำนักในไทย ซึ่งมีจำนวนเงินประกันภัยสำหรับค่ารักษาพยาบาล กรณีผู้ป่วยนอกไม่น้อยกว่า 40,000 บาท และกรณีผู้ป่วยในไม่น้อยกว่า 400,000 บาท โดยชาวต่างชาติส่วนนี้สามารถยื่นคำขอวีซ่าในประเทศที่ตัวเองมีถิ่นพำนัก



          กลุ่มที่ 3 นักธุรกิจต่างชาติที่ถือบัตรเอเปก (APEC Business Travel Card) มีระยะเวลาพำนักในไทยได้ 60-90 วัน และไม่สามารถขยายอายุได้ โดยจะนำร่องบุคคลที่มาจาก 8 ประเทศ หรือเขตเศรษฐกิจที่มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ต่ำ ได้แก่ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง ทั้งนี้ ชาวต่างชาติในกลุ่มนี้จะต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขของไทยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกักตัว 14 วันในสถานกักกันตัวแบบทางเลือกตามที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine - ASQ)



          มาตรการผ่อนคลายระยะที่ 2 จะเริ่มวันที่ 9 ต.ค.2563 ประกอบด้วย 4 กลุ่มคือ



1.ผู้ถือวีซ่า Non-Immigrant รหัส B สำหรับผู้ที่เข้ามาติดต่อหรือประกอบธุรกิจ และการทำงานในประเทศไทยที่ไม่เข้าเงื่อนไขมีใบอนุญาตทำงาน สามารถพำนักในไทยได้นาน 90 วัน



2.ผู้ถือวีซ่า Non-Immigrant รหัส EX ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ปฏิบัติงานด้านช่างฝีมือ พำนักได้ 90 วัน



3. ผู้ถือวีซ่า Non-Immigrant รหัส RS เป็นกลุ่มนักวิจัย ค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ หรือผู้ฝึกสอนในสถาบันการศึกษาในราชอาณาจักร พำนักได้ 90 วัน



4.กลุ่มผู้ถือวีซ่าประเภทท่องเที่ยว รหัส TR เป็นผู้ที่พำนักในประเทศไทยระยะสั้นหรือยาว แต่ต้องแสดงสำเนาบัญชีเงินฝากไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท สามารถพำนักในไทยได้ 60 วัน



          นอกจากนั้นที่ประชุม ศบค .ยังเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายสำหรับชาวต่างชาติชนิดพิเศษ Special Tourist Visa  หรือ STV คาดว่าจะเริ่มภายในเดือน ต.ค.หลังจากนี้กระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งเรื่องไปยัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.ของประเทศต้นทางทั่วโลกให้รับทราบ เพื่อประชาสัมพันธ์ต่อไป ขณะที่ฝ่ายไทย โดยกระทรวงมหาดไทยกำลังจัดทำประกาศกระทรวงฯ และเตรียมจะนำเสนอต่อที่ประชุม เพื่อให้ความเห็นชอบ ก่อนจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป



          โดยผู้ที่ถือวีซ่า STV ต้องมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงหรืออัตราการติดเชื้อโควิด-19 ต่ำ มีหลักฐานการชำระค่าที่พัก หรือสำเนาโฉนดกรรมสิทธิ์ห้องชุดของตัวเองหรือคนในครอบครัว หลักฐานกรมธรรม์ประกันสุขภาพ โดยผู้ร้องขอวีซ่าดังกล่าวจะยื่นหลักฐานดังกล่าวพร้อมคำร้องต่อสถานเอกอัครราชทูตไทย สถานกงสุลใหญ่ไทย หรือ สำนักงานการค้าของไทยในประเทศนั้นๆโดยวีซ่านี้ใช้สำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทยได้ เพียงครั้งเดียวและสามารถขยายเวลาพำนักได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละ 90 วัน รวมเวลาพำนักสูงสุดได้ไม่เกิน 270 วัน



          สำหรับมาตรการผ่อนคลายนี้ จะเริ่มใช้ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งตรงกับช่วงไฮซีซั่นของประเทศแถบยุโรป โดยเชื่อว่า หากมาตรการนี้ประสบความสำเร็จโดยไม่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศเพิ่มขึ้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยได้

ข่าวทั้งหมด

X